บรรยากาศหน้าที่พักของ ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี มีประชาชนมาร่วมวางดอกไม้เพื่อไว้อาลัยจำนวนมาก หลังร่างของอดีตผู้นำอิตาลีถูกเคลื่อนย้ายมาจากโรงพยาบาล San Raffaele Milan ในมิลาน ทั้งนี้ แบร์ลุสโคนี เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่มิลานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 มิ.ย.66) ซึ่งบุคคลใกล้ชิดระบุว่า เป็นไปตามนัดแพทย์ที่มีมาล่วงหน้า เพื่อทดสอบเกี่ยวกับลูคีเมีย ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้แพทย์เปิดเผยว่า เขาป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดชนิดหายาก
ทางการอิตาลีประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นวันที่มีรัฐพิธีศพของแบร์ลุสโคนี ที่ Milan Duomo และให้ลดธงครึ่งเสาตามอาคารสถานที่ราชการทั่วประเทศตั้งแต่วันจันทร์
เส้นทางการเมืองของแบร์ลุสโคนี เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1994 หลังก่อตั้งพรรค Forza Italia ที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม และได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี แบร์ลุสโคนี นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอิตาลีมาถึง 4 สมัย คือในปี 1994-1995 , 2001-2005, 2005-2006 และ 2008-2011
แบร์ลุสโคนี สำเร็จบการศึกษาในสาขานิติศาสตร์ เขาทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สร้างเนื้อสร้างตัวจนร่ำรวย เริ่มเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์เคเบิล จนขยับไปทำช่องโทรทัศน์ระดับประเทศ ซึ่งกลายเป็นสื่อทางเลือกสำคัญในยุคนั้นที่สื่อของรัฐค่อนข้างจะผูกขาดการออกอากาศ ราวช่วงทศวรรษที่ 1970 ก่อนที่จะก่อตั้งสถานีโทรทัศน์เชิงพาณิชย์แห่งแรงของอิตาลีเมื่อปี 1980 ที่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นสื่อชั้นนำภายในช่วงทศวรรษเดียวกัน ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล AC Milan นั่งตำแหน่งประธานสโมสรช่วงปี 1986-2017
การถึงแก่อสัญกรรมของแบร์ลุสโคนี นำมาซึ่งการไว้อาลัยจากผู้นำโลกหลายชาติ ทั้งฝรั่งเศส เยอรมนี จากรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และการไว้อาลัยในสภายุโรป
รวมถึงคนหนึ่งที่ได้ชื่อว่าใกล้ชิด คือวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่ระบุว่า แบร์ลุสโคนี เป็นเพื่อนแท้ ที่เขาชื่นชมความเฉลียวฉลาดและความสามารถในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ อย่างสมดุลและมองการณ์ไกล แม้แต่ในสถานการณ์อันยากลำบากที่สุด ย้อนไปช่วงต้นสงครามยูเครน เบอร์ลุสโกนีปฏิเสธที่จะประณามปูตินเกี่ยวกับการเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อต้นปีที่แล้ว โดยระบุว่า รัสเซียเพียงแต่ต้องการจะให้ผู้ที่เหมาะสมขึ้นครองอำนาจ
แม้ว่านี่จะเป็นท่าทีที่แตกต่างจากของทางการอิตาลี หรือนายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี ที่เดินทางเยือนกรุงเคียฟก่อนหน้านี้และยืนยันว่าอิตาลีสนับสนุนยูเครนก็ตาม ความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นกับปูตินถือเป็นหนึ่งในเรื่องราวชีวิตอันเต็มไปด้วยสีสัน หรือบางคนอาจจะมองว่าหวือหวาจนน่าปวดหัว ของแบร์ลุสโคนี
ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ มองว่า การถึงแก่อสัญกรรมของแบร์ลุสโคนี เป็นจุดสิ้นสุดของยุคยุคหนึ่ง กล่าวคือ แบร์ลุสโคนี ถือเป็นบุคคลที่มีความสำคัญในหลายมิติ ทั้งในเชิงอำนาจทางการเมืองและอิทธิพลทางธุรกิจ เพราะในช่วงกว่า 40 ปีที่ผ่านมา ชาวอิตาเลียนที่เกิดและเติบโตช่วงนี้ย่อมคุ้นเคยกับแบร์ลุสโคนี ไม่ว่าจะเป็นการดูช่องโทรทัศน์ของเขา ติดตามทีมฟุตบอลของเขา หรือในฐานะผู้นำประเทศก็ดี แม้ว่าเขาจะไม่ใช่บุคคลอันเป็นที่ชื่นชอบของทุกฝ่ายก็ตาม