พา "พลายศักดิ์สุรินทร์" กลับไทย 2 ก.ค.นี้ ลุ้นเจรจาอยู่ไทยยาว

กรมอุทยานฯยันความพร้อมพา "พลายศักดิ์สุรินทร์"กลับมารักษาอาการบาดเจ็บในไทย เลื่อนเป็น 2 ก.ค.นี้เหตุลดความเครียดขนส่งจากสวนสัตว์-สนามบิน ภาพรวมพบสุขภาพดีขึ้น อารมณ์ดี ฝีแผลเริ่มแห้ง ยังลุ้นขั้นตอนเจรจาให้อยู่ไทยยาว

วันนี้ (9 มิ.ย.2566) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงความคืบหน้าแผนเคลื่อนย้ายพลายศักดิ์สุรินทร์กลับจากศรีลังกา ว่า เดิมกำหนดเดินทาง กลับไทยวันที่ 1 ก.ค.นี้ แต่เนื่องจากช่วงเวลาการเคลื่อนย้ายเวลาบ่าย ที่ต้องขนช้างขึ้นรถมา สนามบินกรุงโคลัมโบ การจราจรในกรุงโคลัมโบ ค่อนข้างแออัด อาจทำให้เกิดความเครียดของช้าง จึงตัดสินใจเลื่อนการเดินทางเป็นช่วงเช้าวันที่ 2 ก.ค.นี้ และปรับไฟลต์บินเป็นช่วงเช้า เพื่อให้เดินทางมาถึงไทยในช่วงค่ำ

"วราวุธ" แถลงความพร้อมแผนเคลื่อนย้ายพลายศักดิ์สุรินทร์ กลับไทย 2 ก.ค.

โดยช่วงวันที่ 6-9 มิ.ย.ที่ผ่านมาคณะผู้แทนจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำพร้อมด้วยสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศ ไทย และสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ประเมินความพร้อมของพลายศักดิ์สุรินทร์ ที่สวนสัตว์ Dehiwala เบื้องต้นพบว่าพลายศักดิ์สุรินทร์มีอาการที่ดีขึ้น แต่ก็จะต้องรอการประเมินอีกครั้ง โดยควาญชุดแรกจะเดินทางไปศรีลังกา เพื่อสร้างความคุ้นชินและทำให้พลายสุรินทร์ มีความพร้อมมากที่สุด

ตอนนี้ถือว่ามีความพร้อม 80% ในการเคลื่อนย้ายและเตรียมแผนรองรับพลายศักดิ์จสุรินทร์กลับบ้าน แต่ทั้งหมดต้องประเมินที่ตัวช้างอีกครั้งภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้

ภาพ

ภาพ "พลายศักดิ์สุรินทร์"ล่าสุดพบสุขภาพดีขึ้น อารมณ์ดี แผลฝีแห้งลง

เมื่อถามว่าหลังจากพลายศักดิ์สุรินทร์ กลับมารักษาแล้วจะต้องส่งกลับไปศรีลังกา อีกหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่เบื้องต้นหากเป็นไปได้ก็ให้พลายสุรินทร์ อยู่ที่เมืองไทยยาวๆ ส่วนช้างอีก 2 เชือกคือพลายประตูผา และพลายศรีณรงค์ ที่ไปพร้อมกันยังไม่มีแผนที่จะให้กลับมา เพราะตอนนี้เท่าที่ทราบยังอยู่ดี

อ่านข่าวเพิ่ม เปิดภาพกรง "พลายศักดิ์สุรินทร์" คืบ 50 % เล็งฝึกเดินเข้าออกให้คุ้นชิน

สุขภาพดี-อารมณ์ดี-ฝีแผลเริ่มแห้ง

ด้านนายสัตวแพทย์วิสิทธิ์ อาศัยธรรมกุล ผช.ผอ.สถาบันอนุรักษ์และวิจัยสัตว์ องค์การสวนสัตว์ กล่าวว่า ภาพรวมของพลายศักดิ์สุรินทร์ หลังจากที่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง สุขภาพดีขึ้นมาก ฝีบริเวณหลังทั้งสองข้างแผลเริ่มแห้ง และมีขนาดเล็กลง ในด้านสภาพจิตใจ สดใส ร่าเริง กินอาหารขับถ่ายได้ตามปกติ สัตวแพทย์ประเมินแล้วพลายศักดิ์สุรินทร์มีสุขภาพดี

โดยหลังจากนี้ เมื่อกรงเสร็จสมบูรณ์ 100% ภายในวันที่ 11-12 มิ.ย.นี้จะเริ่มนำกรงมาฝึกเข้า-ออกกรงในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม โดยเฉพาะการฝึกช้างให้คุ้นชิ้นกับควาญช้างที่จะเดินทางไปในวันที่ 10 มิ.ย.นี่ และช้างจะเลือกว่าคนไหนที่เข้ากันได้ ทั้งนี้คาดว่าช่วงวันที่ 10 มิ.ย-28 มิ.ย.นี้ จะเป็นช่วงประเมินความพร้อมของพลายศักดิ์สุรินทร์ก่อนขึ้นเครื่อง

สำหรับการออกแบบกรงจะมีท่อระบายของเสีย ต่อเชื่อมสู่ที่เก็บของเสีย และเตรียมอาหารภายในกรงให้พร้อม โดยจะไม่วางยาซึม หากไม่จำเป็น เน้นทำให้เกิดความไว้วางใจระหว่างควาญกับช้างให้มากที่สุด เพราะการวางยาซึมมีผลต่อหัวใจของช้าง เมื่ออยู่ที่สูงบนเครื่องบิน อาจมีความเสี่ยงตายกลางอากาศได้

ขั้นตอนการเดินทางบนเครื่องบิน จะไม่มีการใช้ยาซึม เพราะมีความเสี่ยงกับตัวสัตว์ จึงจะใช้เสียงของควาญคอยปลอบ และพูดคุย ซึ่งช้างอาจมีความเครียดหมือนกับคนเวลาขึ้นเครื่อง เบื้องต้นมีการจำกัดที่นั่ง จึงจะมีควาญ 2 คนสัตวแพทย์ 2 คน

นอกจากนี้ทางคณะได้หารือกับสัตวแพทย์จากสวนสัตว์ Dehiwala ในเรื่องของการตรวจ โรคต่างๆ ที่จะต้องเป็นเงื่อนไขในการนำเข้าสัตว์ โดยที่ประชุมจะมีการนัดหารือผ่านระบบ Video Conference กับกองสารวัตรและกักกัน กรมปศุสัตว์ เพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกันสำหรับการตรวจโรค

เส้นทางการบินจากศรีลังกา-ถึงไทยคาดใช้เวลา 9 ชม.

ภารกิจการพา “พลายศักดิ์สุรินทร์” ในวันที่ 2 ก.ค.นี้ เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมความพร้อมสุขภาพช้าง การฝึกให้คุ้นชิน และเดินทางจากศรีลังกาจากสวนสัตว์ Dehiwala ซึ่งต้องใช้รถบรรทุกขนมาโหลดกรงขึ้นเครื่องบิน Ilyushin IL-76 ที่สนามบินกรุงโคลัมโบ ใช้เวลาบิน 6 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 2,500 กม. และมาถึงสนามบินเชียงใหม่ และต้องเดินทางต่ออีกอย่างน้อย 1.5 ชม.รวมระยะทางที่พาพลายศักดิ์สุรินทร์ จากศรีลังกา กลับไทยรวม 9 ชั่วโมง 2,760 กิโลเมตร

ขณะที่หนึ่งในทีมที่เดินทางไปศรีลังกา บอกว่า ได้เห็นพลายศักดิ์สุรินทร์ และได้ทักไปว่า "กลับบ้าน" และเสียงที่ตอบกลับมาคือ แปร๋นๆๆ นั่นแสดงว่าช้างสื่อสารภาษาไทยได้ จึงมั่นใจว่าพลายศักดิ์สุรินทร์ อยากกลับบ้านเช่นกัน