เลือกตั้ง2566 : "พิธา" นั่งวินไปสภาอุตฯ หารือขึ้นค่าแรง ไม่กังวลผลโหวตของ ส.ว.

"พิธา" นั่งจักรยานยนต์รับจ้าง หารือภาคเอกชน ก่อนจะออกแพคเกจขึ้นค่าแรง ยอมรับว่าเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นมากแต่ก็จะพิจารณาอย่างรอบคอบ พร้อมกับยืนยัน ไม่เป็นกังวลกรณีการโหวตสนับสนุนของ ส.ว.

วันนี้ (23 พ.ค.2566) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เข้าหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. โดยนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้ามาที่สำนักงาน ส.อ.ท. พร้อมให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าหารือว่า เพราะมี ส.ว.หลายคนทำงานในยุครัฐบาลไทยรักไทย สมัยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เคยทำงานที่นี่ และมีความผูกพันกัน ซึ่ง ส.ว. หลายคนเคยทำงานในหลายกระทรวงเศรษฐกิจ เข้าใจว่าคงต้องใช้เวลาในการอธิบายเพื่อให้เกิดความสบายใจ รวมถึงนักธุรกิจเพื่อให้เกิดความมั่นใจ ต่อเสถียรภาพของรัฐบาล

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นั่งจักรยานยนต์รับจ้าง ส.อ.ท.

นอกจากนี้ยังต้องการรับฟัง 6 ข้อเสนอของภาคเอกชน ที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. นำเสนอไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายพรรค เชื่อว่าเมื่อนักธุรกิจได้รับฟังก็จะเห็นภาพที่ชัดเจน ในการเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงที่เศรษฐกิจโลกซบเซา

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล

สำหรับนโยบายการปรับขึ้นค่าแรง 450 บาทนั้น นายพิธา ระบุว่า ต้องการรับฟังภาคเอกชนด้วยทั้งเรื่องของแรงงานเอสเอ็มอี ซึ่งจะพิจารณาให้รอบด้านภายในสัปดาห์นี้ ผ่านคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านอำนาจของประชาชนและจะนำไปคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทย ก็เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรง

อ่านข่าว : ส.อ.ท.รับห่วงนโยบายปรับขึ้นค่าแรงทันที 450 บาท

แต่ในเรื่องของตัวเลขอัตราค่าจ้างยอมรับว่า เป็นอัตราที่กระชากแต่ก็ไม่ใช่การขึ้นค่าแรงครั้งแรก เพราะสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็เคยปรับขึ้นเป็น 300 บาท ทั่วประเทศมาแล้ว ดังนั้นคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านฯ กำลังศึกษาแพคเกจ ขึ้นค่าแรงสมัยปี 2556

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล

นายพิธา ยังเปิดเผยถึงความกังวลต่อการออกเสียงสนับสนุนโหวตรับรองนายกรัฐมนตรีของ ส.ว. ว่า คงต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจในรายละเอียด โดย แกนนำพรรคการก้าวไกลและพรรคร่วม พยายามเจรจาพูดคุยกันอยู่

นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การพูดคุยวันนี้เป็นการพบปะเพื่อสร้างความเข้าใจ และสร้างความเชื่อมั่น ในประเด็นค่าแรง , ค่าไฟ-ค่าน้ำ , การช่วยเหลือและผลักดันเอสเอ็มอี และการปฏิรูปกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้าเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นอีกมิติใหม่ ที่พรรคจัดตั้งรัฐบาล มีการเข้ามาเปิดมุมมองและแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน