วันนี้ (22 เม.ย.2566) องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยว่า ปี 2022 ที่ผ่านมา เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับ 5 หรือ 6 เท่าที่เคยมีการบันทึกสถิติมา โดยโลกมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าช่วงยุคก่อนอุตสาหกรรม 1.15 องศาเซลเซียส ทั้งที่ได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์ลานีญาซึ่งทำให้อากาศเย็นกว่าปกตินานถึง 3 ปี
ขณะที่ระดับน้ำทะเลทั่วโลกกำลังเพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่เร็วกว่าในช่วงทศวรรษแรกซึ่งมีการเก็บข้อมูลสถิติระหว่างปี 1993 - 2002 ถึงมากกว่าเท่าตัว และเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดจนกลายเป็นสถิติใหม่เมื่อปีที่แล้ว
การละลายของธารน้ำแข็งและมหาสมุทรที่ร้อนจัดถือเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้น้ำในมหาสมุทรขยายตัว จนระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นปีละ 4.62 มิลลิเมตร ระหว่างปี 2013 - 2022 ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เซนติเมตร นับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1990
ขณะที่ก๊าซเรือนกระจกปริมาณมหาศาลจะส่งผลให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นต่อไปอีกนับเป็นพัน ๆ ปี ซึ่งจะคุกคามเมืองที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งและประเทศเกาะต่าง ๆ
รายงานฉบับนี้ ยังระบุด้วยว่า ผิวน้ำในมหาสมุทรถึงราวร้อยละ 58 เผชิญคลื่นความร้อน ซึ่งส่งผลให้มหาสมุทรร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์อีกด้วย และโลกจะต้องเผชิญสภาพอากาศสุดขั้วต่อเนื่องไปจนถึงทศวรรษที่ 2060 ไม่ว่าจะพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเท่าไร แต่ยังมีโอกาสลดความเสี่ยงในอนาคตหลังจากนั้นได้ หากสามารถป้องกันไม่ให้โลกร้อนขึ้นไปกว่านี้