เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2566 ตำรวจกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 กองบัญชาการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สอบปากคำนายสมศักดิ์ อายุ 43 ปี และ น.ส.ปทุมรัตน์ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยจับกุมได้ที่หมู่บ้านเอื้ออาทรในพื้นที่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี
จากคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน อ้างว่ามีเพื่อนชักชวนไปเปิดบัญชีให้คนละ 2 บัญชี แลกกับเงิน 500 บาท มีการโอนเงินของผู้เสียหายเข้าบัญชีทั้งหมด 4 บัญชี ของผู้ชาย 2 ครั้ง ของผู้หญิง 4 ครั้ง ขณะที่ตำรวจอยู่ระหว่างตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียด
ก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหาย 2 คนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นพนักงานขนส่งบริษัทเอกชน แจ้งกับผู้เสียหายว่ามีพัสดุที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หากบริสุทธิ์ใจให้ติดต่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย แต่เมื่อติดต่อไปแล้วมีคนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ ผู้กำกับการ สภ.เมืองเชียงราย ขอให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบ ซึ่งผู้เสียหายคนแรกเป็นหมอใน จ.ชุมพร โอนเงินไป 101 ล้านบาท ส่วนผู้เสียหายคนที่ 2 เป็นนักธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ โอนเงินให้ 42 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 143 ล้านบาท
ขณะที่ พล.ต.ท.วิวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าหลังจากที่มีการบังคับใช้กฎหมายตัวใหม่ที่มีการควบคุมบัญชีม้าและซิมโทรศัพท์ พบว่ามีบัญชีเปิดใหม่ลดลง แต่ยังมีผู้หลงผิดใจดีสู้เสือลักลอบเปิดบัญชีม้าอยู่ โดยมีการเสนอราคารับจ้างเปิดบัญชีสูงขึ้น สนนราคาตั้งแต่ 30,000-40,000 บาท อย่างไรก็ตามส่วนของบัญชีม้าและซิมโทรศัพท์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้รวบรวมข้อมูล เพื่อปราบปรามกวาดล้างบัญชีม้าและซิมโทรศัพท์ต่อไป
อ่านข่าวอื่นๆ
พบอีกอุ้มคนจีนรีดเงิน 1.8 ล้าน จับแล้ว 3 ออกหมายจับเพิ่ม 6 คน
จับครบ 6 คนแล้ว แก๊งอุ้มชาวจีนเรียกค่าไถ่
เพื่อนยืนยัน "น้ำเพชร" ไม่เกี่ยวอุ้มชาวจีนเรียกค่าไถ่ ยันไม่มีปัญหาเรื่องเงิน