วันนี้ (3 เม.ย.2566) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เป็นคดีหมายเลขดำ พศ.77/2566 ขอให้ไต่สวนโดยฉุกเฉิน และมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีเนื้อหาอันเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 จำนวน 1 โดเมนเนม ออกจากระบบคอมพิวเตอร์เป็นการด่วน และข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีเนื้อหา ซึ่งศาลได้มีคำสั่งในคดีนี้ให้ระงับการแพร่หลายหรือลบออกจากระบบคอมพิวเตอร์แล้ว แต่มีการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในระบบคอมพิวเตอร์ซ้ำอีก ก็ให้ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวด้วย
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2566 กระทรวงดิจิทัลฯ ตรวจพบเว็บไซต์ 9near โพสต์คลิปวิดีโอชื่อ "55 ล้านชื่อหลุด" กระทั่งมีการนำเสนอข่าวเป็นวงกว้างถึงการกระทำที่มีลักษณะประกาศขายข้อมูลส่วนตัวคนไทย
ซึ่งศาลอาญา มีคำสั่งรับคำร้องไว้ไต่สวน และได้ไต่สวนพยานผู้ร้องเสร็จสิ้น 1 ปาก
ศาลอาญา มีคำสั่งว่า “พิเคราะห์พยานบุคคล พยานเอกสาร และวัตถุพยานที่ผู้ร้องนำสืบในชั้นไต่สวนแล้ว สามารถรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่า กระทรวงดิจิทัลฯ ตรวจสอบพบว่ามีข้อมูลในอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ มีเนื้อหาเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ จำนวน 1 โดเมนเนม ได้แก่ 9near.org ซึ่งข้อมูลที่ปรากฏในโดเมนเนม ดังกล่าวข้างต้นมีเนื้อหาเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา และเข้าข่ายเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 14 (1)(2) พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (1)(2) ประกอบมาตรา 20 จึงมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 โดเมนเนม ได้แก่ เว็บไซต์ 9near.org ดังกล่าวออกจากระบบคอมพิวเตอร์
ภายหลังหากมีการนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีเนื้อหาดังกล่าวเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และมีการทำให้แพร่หลายซ้ำอีก ก็ให้ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นออกจากระบบคอมพิวเตอร์ด้วย