วันนี้ (4 มี.ค.2566) เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกันเข้าตรวจสอบภายในอาคารที่ทำการของกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ถนนสาทร ใกล้กับแยกนรินทร เขตสาทร หลังได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายอาคารหลังดังกล่าว พร้อมประสานรถดับเพลิงรวมกว่า 50 คัน มาระดมคุมเพลิง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 3 ชั้น โดยจุดเกิดเหตุอยู่ชั้น 1 ก่อนเปลวไฟสูงกว่า 10 เมตร ลุกลามและมีเสียงระเบิดออกมาเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรที่สี่แยกนรินทร ไม่ให้รถผ่านหน้าจุดเกิดเหตุเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร พร้อมระดมเจ้าหน้าที่พร้อมสายฉีดน้ำกว่า 50 หัวฉีด เข้าควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปภายในอาคารได้ เพราะหลังคาถล่มลงมา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงควบคุมสถานการณ์ได้
ในที่เกิดเหตุไม่มีผู้ติดค้าง หรือพักอาศัยอยู่ภายใน แต่มีรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดไว้รอบอาคารได้รับความเสียหาย 7 คัน หนึ่งในนั้นเป็นรถยนต์ประจำตำแหน่งของ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่า จากการสอบถามตำรวจเวรยามรักษาการหน้าอาคาร ทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดคล้ายไฟฟ้าลัดวงจรที่ชั้นล่างของตัวอาคาร จากนั้นเห็นแสงเพลิงกำลังลุกไหม้กองเอกสาร จึงรีบนำถังดับเพลิงวิ่งเข้าไปฉีด แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้เข้ามาช่วยเหลือ
ขณะที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าต้นเพลิงมาจากห้องเก็บเอกสารชั้น 1 ก่อนที่จะค่อย ๆ ลุกลามไปชั้นที่ 2 และ 3 อย่างรวดเร็ว ทำให้ตัวอาคารได้รับความเสียหายทั้งหลัง
สำหรับอาคารดังกล่าวใช้เป็นที่เก็บเอกสารทางธุรการ และเอกสารทางราชการ ส่วนจะมีเอกสารในคดีสำคัญถูกเก็บไว้ด้วยหรือไม่ยัง อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่คดีที่สำคัญ พนักงานสอบสวนจะมีการเก็บไฟล์สำรองเอาไว้ หลังจากนี้จะต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้
สำหรับคดีสำคัญ ๆ ในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 มีหลายคดี อาจมีการรวบรวมพยานหลักฐานมาเก็บไว้ที่อาคารดังกล่าว เช่น คดีอดีตรองหัวหน้าพรรคการเมืองข่มขืน และอนาจารผู้เสียหายหลายคน ในพื้นที่ สน.ลุมพินี, คดีบ่อนการพนันในพื้นที่ สน.คลองตัน รวมถึงคดีต่าง ๆ อีกหลายคดี
อาคารดังกล่าวก่อสร้างมาแล้วกว่า 42 ปี เคยใช้เป็นที่ทำการของกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ก่อนจะย้ายที่ทำการไปที่อาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน และให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เข้ามาใช้งานต่อ เมื่อเดือน ส.ค.2565 ก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าว
เบื้องต้นตำรวจประสานเจ้าหน้ากรมโยธา และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ และประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุ คาดว่าจะต้องประเมินการรื้อถอนอาคาร เนื่องจากได้รับความเสียหายทั้งหมด