กรณีสื่อโซเชียลบางแห่งระบุว่า กรมอุทยานฯ-ปทส.จับแก๊งลอบชำแหละตัวเงินตัวทอง หรือตัวเหี้ย อ้างว่าถูกส่งไปทำลูกชิ้นปลา สร้างความตกใจกับผู้นิยมกินลูกชิ้นปลา
วันนี้ (2 มี.ค.2566) เฟซบุ๊กตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โพสต์ภาพ พร้อม ข้อความ ยืนยันบุกทลายโรงชำแหละส่งร้านอาหารป่า ไม่ใช่โรงงานผลิตลูกชิ้นข้อมูลระบุว่า กรณีที่มีเพจหนึ่งโพสต์รูปภาพตัวเงินตัวทอง พร้อมข้อความระบุว่า บุกทลายโรงงานผลิตลูกชิ้นปลาเจ้าใหญ่ ที่ดัดแปลงใช้เนื้อของตัวเงินตัวทองมาทำเป็นลูกชิ้นปลาเนื้อขาวใสไร้ความคาว ส่วนหนังน่านำไปตากแห้งทำเป็นหนังปลาทอดกรอบ จัดจำหน่ายส่งขายทั่วประเทศมานานแล้ว
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ระบุว่า ภาพดังกล่าวเป็นผลงานการจับกุมของตำรวจ บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบซื้อขายเพื่อการค้า และมีไว้ในครอบครองซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลื้อยคลาน ในพื้นที่อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
โดยจากการสอบถามผู้ต้องหา และจากการสืบสวน ยืนยันว่า ซากตัวเงินตัวทองเหล่านี้ เตรียมนำไปขายต่อที่ตลาดชายแดนภาคตะวันออก เพื่อนำไปประกอบเป็นอาหารป่าขายแก่ผู้ชื่นชอบเท่านั้น ไม่ได้เป็นไปตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด
สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับเจ้าหน้าที่ ชุด สปป.1 (ภาคกลาง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง บุกจับผู้กระทำผิด 2 คน บริเวณบ้านพักในพื้นที่ ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
พร้อมยึดของกลาง เป็นตัวเงินตัวทอง (Varanus salvator) 32 ตัว ซากตัวเงินตัวทอง จำนวน 59 ซากเต่านา 20 ตัว เต่าดํา หรือ เต่ากา 6 ตัว เต่าหับ 2 ตัวรวมยึดสัตว์ป่าคุ้มครอง พร้อมซากรวม 115 ตัว รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการเผา ชำแหละ 13 รายการ
หลังสืบสวนพบพฤติการณ์ ลักลอบซื้อขายสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลื้อยคลาน โดยให้การว่ารับสัตว์ และซากสัตว์ของกลางมาจากชาวบ้านในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง โดยจะมีผู้รวบรวมมาขายให้จากนั้นผู้ต้องหาจะนำส่งร้านอาหารป่าในพื้นที่ จ.ตราด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยังไม่ชัด! อุทยานฯ ขยายผล "ลูกชิ้นเนื้อเหี้ย" แต่พบขายเนื้อร้านอาหารป่า
บุกจับแก๊งค้าสัตว์ป่า พบของกลาง "เหี้ย 32 ตัว 59 ซาก-เต่านับร้อย"