วันนี้ (17 ก.พ.2566) นายธานินทร์ ทิพย์คูนอก เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.ชัยภูมิ ยังถูกควบคุมตัว อยู่ที่สถานีตำรวจภูธรวังตะเฆ่ ตำรวจกำลังสอบสวนขยายผล ถึงแหล่งที่มาของยาบ้าและกลุ่มผู้เสพ คาดว่า นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดชัยภูมิ พรุ่งนี้ (18 ก.พ.2566)
นายธานินท์ ถูกจับกุมพร้อมยาบ้าในกระเป๋าสะพายข้าง 377 เม็ด ตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง รับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ซื้อยาบ้าครั้งละ 50-60 เม็ด มาเสพ ต่อมา "ยาบ้าราคาถูกลง" จึงซื้อมาขาย โดยซื้อที่ จ.ลพบุรี อ้างว่า ไม่ได้ขายให้เด็ก แต่ขายให้คนวัยทำงาน ส่วนตัวเอง เสพวันละ 10-20 เม็ด
ต่อมา เมื่อตรวจค้นที่บ้าน พบอาวุธปืน .38 จำนวน 1 กระบอกลูกกระสุนขนาด .38 จำนวน 3 นัด ซุกอยู่ในตู้เก็บเสื้อผ้า โดยผู้ต้องหามีประวัติพัวพันกับยาเสพติด มีคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน ตำรวจจับกุมหลังสืบทราบว่ามีพฤติกรรม จำหน่ายยาเสพติดให้กับเยาวชนในพื้นที่มานานกว่า 4-5 ปี
สำหรับโรงเรียนที่ผู้ต้องหาทำงาน เปิดสอนตั้งแต่อนุบาลถึงชั้น ป.6 เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีนักเรียนประมาณ 50 คน และมีครู 3 คน ผู้ก่อเหตุเป็นลูกจ้างเหมา ทำงานธุรการในโรงเรียน สัญญาปีต่อปี แต่เพราะเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ทำให้พนักงานธุรการ ต้องทำหน้าที่สอนด้วย ทำให้ถูกเรียกว่า ครูธุรการ
นายณรงค์ ดวงพรหม ผู้อำนวยการโรงเรียน บอกว่า เพิ่งย้ายมาบริหารจึงไม่รู้ขั้นตอนรับบุคลากร และได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 ให้มีคำสั่งเลิกจ้างแล้ว ยืนยัน ไม่มีนักเรียนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ชาวบ้านที่อยู่ใกล้โรงเรียน บอกว่า ผู้ต้องหามีภูมิลำเนาที่อื่น ไม่ใช่คนพื้นที่ จึงไม่รู้ว่ามีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และผู้ต้องหาไม่ได้พูดคุยกับชาวบ้านมากนัก
ตั้งกรรมการสอบธุรการโรงเรียนขายยาบ้า
นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุไม่ใช่ครูอัตราจ้างตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ แต่เป็นพนักงานจ้างเหมา ฝ่ายธุรการ หลังเกิดเหตุเลิกจ้างทันที และเขตพื้นที่ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่า นำยาบ้าเข้ามาในโรงเรียนได้อย่างไร มีคนอื่นเกี่ยวข้องหรือไม่ และขายยาให้นักเรียนหรือไม่ รวมถึงเน้นย้ำให้ตรวจสอบขั้นตอนการรับสมัครบุคคลากร เพราะการจ้างพนักงานจ้างเหมา กำหนดว่าต้องไม่เคยมีประวัติทำผิดในคดีอาญา