วันนี้ (31 ม.ค.2566) นายศักดิ์อนันต์ ปลาทอง อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โพสต์เฟซบุ๊ก Sakanan Plathong เป็นภาพของพะยูนที่อยู่เคียงข้างแม่เต่าตนุ โดยระบุภาพประทับใจของเพื่อนรักต่างสายพันธุ์นี้ เกิดที่อ่าวดงตาล จ.ชลบุรี
พะยูนน้อย มีแม่ใหม่เป็นเต่าตนุ โชคดีที่มีเต่าตัวนี้รับดูแล เต่าใหญ่ระดับป๋าขนาดเมตรกว่านี้ ถ้าไม่ช่ำชองพื้นที่ ไม่รู้ว่าที่ไหนปลอดภัย คงติดอวนตายไปนานแล้ว เต่าที่นี่รู้เส้นทางว่าที่ไหนปลอดภัย
คาดพลัดหลงแม่-แนะร่วมปกป้อง 2 ชีวิต
ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์นายศักดิ์อนันต์ กล่าวว่า ภาพดังกล่าวเกิดขึ้นที่อ่าวดงตาล สันนิษฐานว่าแม่ของพะยูนตัวนี้ อาจจะเป็นตัวเดียวกับที่เคยมีราย งานพบพะยูนตัวเมียอายุ 15 ตายบริเวณอ่าวดงตาล เมื่อช่วงเดือนธ.ค.2565 ทำให้ลูกพะยูนตัวนี้ ซึ่งยังอยู่ในช่วงอายุ ที่ต้องอยู่กับแม่วนเวียนเข้ามาใกล้ชายฝั่ง แต่บังเอิญมาพบเต่าตนุขนาดใหญ่ ประมาณ 1 เมตรลอยน้ำอยู่ จึงเข้าไปคลอเคลียไม่ห่าง
พฤติกรรมของลูกพะยูน ยังต้องอยู่กับแม่กินนม กินหญ้าทะเล การที่เขาอยู่กับเต่าตนุขนาดใหญ่ และเต่ายอมรับเป็นภาพที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก คาดหวังว่าเต่าตนุ ตัวนี้จะปกป้อง จะพาพะยูนน้อยไปหากินหญ้าทะเล หลบจากเรือประมง ขยะอยู่รอดปลอดภัย
นายศักดิ์อนันต์ กล่าวอีกว่า สำหรับในพื้นที่อ่าวดงตาล ถึงแม้ว่าจะพบเต่าตนุบ่อยครั้ง แต่ที่ผ่านมาก็ยังพบปัญหาเต่าทะเลตายเช่นกัน ดังนั้น เพื่อรักษาเต่าและพะยูนในอ่าวดงตาล อาจต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนลดกิจกรรมที่สร้างผลกระทบต่อแหล่งหญ้าทะเล ช่วยกันเก็บขยะออกจากทะเล
โดยเฉพาะตามแหล่งหญ้าทะเล ลดปริมาณขยะทะเลที่ถูกพัดลงอ่าว รวมทั้งลดการทำการประมงอวนลอย อวนจม อวนติดตาในอ่าว ซึ่งปัจจุบันมีไม่มาก และขอความร่วมมือจำนวนมากสัญจรเข้าออกในพื้นที่เดินเรือช้าๆ
ในอดีตคนโบราณบอกว่าอ่าวดงตาลมีพะยูน แต่ไม่ชัดว่าพะยูนแม่ลูกมาจากพื้นที่อ่าวมะขาม จ.ระยองหรือไม่ ตอนนี้ขอให้ช่วยกันปกป้องเต่าตนุ และลูกพะยูนคู่นี้
เมื่อถามว่าการดูแลลูกพะยูน จำเป็นต้องนำขึ้นมาดูแลเหมือนกับลูกพะยูนมาเรียมหรือไม่ นายศักดิ์อนันต์ ระบุว่า ไม่จำเป็น เพราะถ้าเราดูแลรักษาอ่าวดงตาลก็เท่ากับรักษาบ้านของสัตว์ทะเลเหล่านี้ได้ ให้อยู่กับธรรมชาติดีกว่า