- เปิด 12 ธุรกิจ "สถานบันเทิงครบวงจร" ฝ่าฝืนโทษสูงสุดปรับ 5 แสน
- "รังสิมันต์" ตั้ง 6 ข้อสังเกตปัญหา "สถานบันเทิงครบวงจร"
วันที่ 10 ม.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสภาผู้แทนราษฎร แต่งตั้งคณะวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร การจัดเก็บรายได้ และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย และมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร มาศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) ที่จะมีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วย เพื่อหารายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย ตั้งแต่ปลายปี 2564
ล่าสุด กมธ.ได้รวบรวมข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีข้อเสนอให้ก่อสร้างสถานบันเทิงแบบครบวงจรในประเทศไทย โดยมีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วย พร้อมทั้งจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาในวันที่ 12 ม.ค.
สำหรับการจัดตั้งกาสิโนถูกกฎหมายนั้น กมธ.เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำร่าง พ.ร.บ.อนุญาตให้การพนันออนไลน์ ดำเนินการได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และให้กระทรวงมหาดไทยแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 บังคับใช้ครอบคลุมถึงการควบคุมพนันออนไลน์ และวางบทกำหนดโทษที่เหมาะสม ตลอดจนกำหนดอัตราการจัดเก็บรายได้และภาษี
ส่วนเงื่อนไขการเข้าไปใช้บริการกาสิโนถูกกฎหมายนั้น จะเปิดให้ทั้งชาวต่างชาติและคนไทยเข้าใช้บริการ แต่ถ้าเป็นคนไทยต้องแสดงบัตรประชาชน มีอายุ 21 ปีขึ้นไป แสดงสถานะการเงินย้อนหลัง 6 เดือน มีเงินหมุนเวียนในบัญชีไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท และจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการเข้าไปใช้บริการ ตลอดจนต้องนำเงินที่เล่นได้จากกาสิโนถูกกฎหมายไปคำนวณเป็นรายได้ เพื่อยื่นเสียภาษีประจำปีด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายงาน กมธ. สำหรับกาสิโนถูกกฎหมาย กมธ. เสนอให้มีการพนันทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งในรูปแบบการพนันออนไลน์เสนอให้มี 8 รูปแบบ ได้แก่ 1.กาสิโนออนไลน์ ที่เป็นเกมพนันรูปแบบต่าง ๆ 2.การพนันที่ใช้การขึ้นลงของตลาดหุ้น สกุลเงิน 3.พนันกีฬาออนไลน์ เช่น กีฬาสากล กีฬาพื้นบ้าน แข่งม้า
4.การพนันอิงเหตุการณ์จริง เช่น ผลการเลือกตั้ง 5.บิงโกออนไลน์ 6.การเสี่ยงโชคออนไลน์ ผลการออกสลากกินแบ่งทั้งไทยและต่างประเทศ 7.เว็บไซต์เกมที่ต้องใช้ทักษะ เช่น เกมต่อสู้ออนไลน์ E-Sport และ 8.เว็บไซต์เพื่อการฝึกฝน เช่น เกมบาคาร่า เกมม้าแข่งที่ใช้เหรียญของเกม (Token) แทงพนัน อาจต้องเติมเงินหรือให้ฟรี เมื่อมีความชำนาญจึงไปเล่นกาสิโนออนไลน์ต่อไป
ส่วนสถานที่ก่อสร้างเสนอไว้ 3 พื้นที่ ได้แก่ 1.กรุงเทพฯ และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 2.จังหวัดท่องเที่ยวหลัก 22 จังหวัด 3.จังหวัดชายแดนที่มีพื้นที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง หากเป็นภาคใต้ควรสร้างที่ จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ ภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี หนองคาย
สำหรับการตั้งสถานบันเทิงแบบครบวงจร โดยให้มีโรงแรม 5 ดาว ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ สถานเสริมความงาม สปา สวนสนุก สวนสัตว์ สนามกีฬาในร่ม และกลางแจ้ง เช่น โบว์ลิ่ง สนุกเกอร์ สนามมวย สนามแข่งรถ อยู่ในพื้นที่ร้อยละ 5 ของสถานบันเทิงแบบครบวงจร
โดยมีการตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการสถานบันเทิงแบบครบวงจร ควบคุม และกำกับการจัดตั้งกาสิโน มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน การลงทุนก่อสร้างควรมีขนาดใหญ่กว่าประเทศสิงคโปร์ ให้เป็นการลงทุนร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ยึดถือแนวทางการบริหารจัดการแบบเขตบริหารพิเศษมาเก๊า และประเทศสิงคโปร์