วันนี้ (3 ม.ค.2566) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงการจัดทำ ระบบ E-ticket เพื่อให้เกิดความโปร่งใส โดยระบุว่า หลังได้ประเมินข้อมูลเบาะแส โดยเฉพาะการจัดเก็บรายได้เข้ากรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยเสนอให้ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยแจ้งไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ให้ดำเนินการ โดยในปี 63 กรมอุทยานฯแจ้งว่าดำเนินการใน 6 แห่ง แต่ยังติดขัดในเรื่องการของบประมาณเพื่อดำเนินการ
นายนิวัติไชย กล่าวว่า กรณีการเข้าควบคุมตัว นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานฯ อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ ป.ป.ช.ได้เสนอแนะ โดย กรณีแรกคือ การเรียกรับเงินคือการซื้อ-ขายตำแหน่ง ซึ่งคำถาม คือ 1.เงินที่นำมาให้นั้นนำมาจากที่ใด คือ เงินส่วนตัว หรือ จากการเบียดบังงบประมาณของกรมฯ ซึ่งมีหลายเรื่องเช่น งบฯ ไฟป่า ซึ่งก็คือ การจ้างลูกจ้างเพื่อดับไฟ และงบฯ ต่าง ๆ ของกรมอุทยานฯ
อาจรวมถึงการทุจริตการจัดเก็บรายได้ โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติทางทะเล ที่ส่วนหนึ่งอาจนำมาเป็นรายได้เพื่อใช้ในการซื้อ-ขาย ตำแหน่งและจ่ายส่วยรายเดือนด้วย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการจัดเก็บค่าธรรมเนียม
ช่องโหว่ค่าธรรมเนียมอุทยานรั่วไหล ดัน "E-ticket" นำร่อง 6 แห่ง
เลขาธิการ ป.ป.ช. ยังกล่าวว่า การจัดเก็บระบบ E-ticket ซึ่งหลายพื้นที่ได้มีการปักเสาสัญญาณโทรศัพท์เกือบหมดแล้ว จึงคิดว่าการเดินหน้าระบบไม่น่าจะมีปัญหา รวมถึงทางกรมอุทยานฯไม่ได้แจ้งปัญหาหรือการติดขัดจากการสาเหตุดังกล่าว ซึ่งเพียงติดภาระเรื่องงบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งอาจจะมีบางพื้นที่ที่มีปัญหาเรื่องสัญญาณโทรศัพท์
ขณะที่ การออกข้อเสนอแนะทั้ง 7 ข้อนั้น เช่น กรณีอุทยานแห่งชาติทางทะเล ที่บางแห่งที่อยู่นอกเขตเมือง และใช้เวลาในการเดินทางนาน หรือ บนเกาะมีข้าราชการดูแลจำนวนน้อย
ดังนั้น อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจึงอยู่ที่หัวหน้าอุทยานฯ ซึ่งหากลูกจ้างหากไม่ทำตามก็อาจถูกเลิกจ้าง รวมถึงยังมีความเกี่ยวข้องกับรายได้อีกหลายทางทั้งการเดินทาง หรือ การจัดหาอาหาร หรือ บ้านพักและเต้นท์ เรือที่นำชมรอบเกาะ ทุกอย่าง เป็นรายได้เข้าอุทยานฯทั้งหมด แต่ปัญหาคือใครจะเป็นคนกำกับดูแล เพราะแม้แต่กรมอุทยานฯ ก็ไม่สามารถลงมากำกับดูแลได้ ทำให้ไม่ทราบว่ารายได้ในแต่ละวันอยู่ที่จำนวนเท่าไหร่
E-ticket จะช่วยให้ทราบว่า ยอดนักท่องเที่ยวในแต่ละเดือน หรือแต่ละวันมีกี่คน หรือ หากมี E-ticket แต่ไม่ซื้อตั๋วจะต่อตรงไปยังหัวหน้าอุทยานฯ ทำได้มั้ย ก็ทำได้ ซึ่ง E-ticket ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง
แต่อย่างน้อยก็ดูปริมาณได้ว่า มีนักท่องเที่ยวจำนวนเท่าใด ช่วยให้คาดการณ์หรือพยากรณ์รายได้ค่าตั๋วกับจำนวนนักท่องเที่ยวได้ หรือ อย่างน้อยก็มีค่าธรรมเนียมเข้าภาครัฐ ทั้งนี้ต้องมีมาตรการอื่น ๆ เข้ามาร่วมด้วย