เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2565 ศาลอาญาพระโขนง นัดฟังคำพิพากษาที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 3 และนางฮวย ศรีวิรัตน์ (โจทก์ร่วม) หรือ อาม่าฮวย ยื่นฟ้อง นางมาวดี ศรีวิรัตน์ ลูกสาวของนางฮวย กับพวกซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัดรวม 5 คน ในความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารลักทรัพย์ จากธนาคารกสิกรไทย จำกัด สาขาสุขุมวิท 101 และสาขาถนนศรีนครินทร์ กม.9 มูลค่าความเสียหายกว่า 250 ล้านบาท
กรณีที่นางฮวยถูกนางมาวดี ที่เป็นลูกสาวแท้ ๆ ร่วมมือกับพนักงานแบงก์อีก 4 คน แอบโอนเงินในบัญชีออกไป ตอนที่นางฮวยป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้เงินในบัญชีกว่า 250 ล้านบาท โดยคดีมีการฟ้องเมื่อช่วงปี 2562
เมื่อถึงเวลาศาลได้อ่านคำพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม และลักทรัพย์ ทั้ง 2 ข้อหารวม 84 กระทง คงจำคุกรวม 20 ปี และใช้เงินคืนแก่โจทก์ 123 ล้านบาท จำเลยที่ 4 มีความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา จำเลยที่ 2, 3, 5 ยกฟ้อง
หลังจากศาล มีคำพิพากษาจำคุกนางมาวดีแล้ว จำเลยได้ยื่นขอปล่อยชั่วคราว แต่ก็เลยเวลาทำการก็ยังไม่รับการปล่อยตัว และจากการเปิดเผยของนายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ นางมาวดี ระบุว่า ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 2 ล้านบาทขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ แล้ว
นายกฤษฎา เปิดเผยว่า ศาลชั้นต้นเห็นควรส่งให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาประกัน คาดว่าผลคำสั่งคงจะออกมาในวันนี้ (30 ธ.ค.) ภายหลังหมดเวลาราชการ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวนางมาวดีไปคุมขังยังทัณฑสถานหญิงกลางทันที จนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวหรือไม่