การเสียชีวิตของประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี เมื่อปี 1963 ก่อให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดเป็นเวลานานหลายสิบปี การเปิดเผยเอกสารคดีกว่า 13,000 ฉบับครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนเข้าใจกระบวนการสืบสวนคดีนี้มากขึ้น
ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี ถูกลอบสังหารระหว่างเดินทางเยือนเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส เมื่อวันที่ 22 พ.ย.1963
การสืบสวนของคณะกรรมาธิการวอร์เรนในปี 1964 ระบุว่า ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ อดีตนาวิกโยธินลงมือสังหารเพียงลำพัง ขณะที่ออสวอลด์ถูกยิงเสียชีวิตภายในสำนักงานตำรวจดัลลัส 2 วันหลังจากอดีตผู้นำสหรัฐฯ ถูกลอบสังหารต่อหน้าสาธารณชน
หอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ เผยแพร่เอกสาร 13,173 ฉบับทางออนไลน์ ทำให้เอกสารเกี่ยวกับคดีลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี มากกว่าร้อยละ 97 ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน สั่งให้มีการเก็บข้อมูลบางส่วนต่อจนถึงเดือน มิ.ย.2023 เพื่อป้องกันอันตรายด้านความมั่นคง แม้ว่ากฎหมาย JFK Records Act ปี 1992 กำหนดให้เปิดเผยเอกสารทุกฉบับภายใน 25 ปี หรือในเดือน ต.ค.2017
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งให้เปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับคดีมากกว่า 2,800 ฉบับ แต่ยังคงปิดบังเอกสารจำนวนหนึ่ง หลังจาก CIA และ FBI ขอให้เก็บข้อมูลบางส่วน เพราะมีข้อกังวลด้านความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ต่อมาประธานาธิบดีโจ ไบเดน สั่งให้เปิดเผยเอกสารลับอีกกว่า 1,500 ฉบับ แต่ยังคงเลื่อนการเปิดเผยเอกสารบางส่วน เนื่องจากมีข้อมูลสำคัญต่อความมั่นคงของชาติ ปฏิบัติการสืบข่าวกรอง หรือปฏิบัติการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
สำหรับออสวอลด์ เคยแปรพักตร์เข้ากับสหภาพโซเวียตในปี 1959 ก่อนที่จะเดินทางกลับมายังสหรัฐฯ อีก 3 ปีต่อมา การเปิดเผยเอกสารประกอบคดีฉบับสมบูรณ์ในครั้งนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ในการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยมากขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ KGB ของสหภาพโซเวียตที่กรุงเม็กซิโก ซิตี้ ของเม็กซิโก ในเดือน ต.ค.1963
เอกสาร CIA เมื่อเดือน ธ.ค.1963 ระบุว่า ผู้นำเม็กซิโกเคยดักฟังในสถานทูตสหภาพโซเวียต เพื่อช่วยสหรัฐฯ หลังจากข้อความในเอกสารฉบับนี้ถูกปิดบังไว้ในเอกสารที่ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะเมื่อปี 2017 และปี 2018
ขณะที่นักวิจัยองค์การ Mary Ferrell Foundation ไม่ค่อยพอใจกับการเผยแพร่เอกสารฉบับสมบูรณ์ครั้งนี้มากนัก เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ ยังแก้ไขหรือปกปิดข้อมูลสำคัญที่อาจส่งผลในเชิงลบต่อ CIA และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม เอกสารอีกกว่า 5,000 ฉบับที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผย อาจเป็นกุญแจสำคัญในการคลี่คลายปริศนาการลอบสังหารได้