เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ CNN รายงานว่า พ่อค้าอาวุธชาวรัสเซียถูกจับที่ไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 ส่วนนักบาสอเมริกันถูกจับเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา แต่การเจรจาล่าช้าจากสงครามและความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ระหว่างสองประเทศ ซึ่งหลังการเจรจาที่ดำเนินมายาวนานหลายเดือน ในที่สุดนักกีฬาชาวอเมริกันได้เดินทางกลับบ้านแล้ว
โจ ไบเดน ปธน.สหรัฐฯ ประกาศว่า ได้พูดคุยกับ บริทนีย์ ไกรเนอร์ แล้ว เธอปลอดภัย และเธออยู่บนเครื่องบิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเดินทางกลับบ้าน หลังถูกคุมขังอย่างไม่เป็นธรรมในรัสเซียมานานหลายเดือนภายใต้สภาวะที่เหลืออดและเธอจะได้กลับมาสู่อ้อมอกของคนที่รักในอีกไม่นานนี้
![โจ ไบเดน ปธน.สหรัฐ ขณะแถลงเรื่องการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษ
แอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ
เชอรีล ไกรเนอร์ คู่สมรสของ บริทนีย์ ไกรเนอร์](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhpDoZSddOHTfF1dvH4tkkhAPJ1P.jpg)
โจ ไบเดน ปธน.สหรัฐ ขณะแถลงเรื่องการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษ แอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ เชอรีล ไกรเนอร์ คู่สมรสของ บริทนีย์ ไกรเนอร์
การประกาศข่าวดีของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากรัฐบาลรัสเซีย ยอมปล่อยตัวบริทนีย์ ไกรเนอร์ วัย 32 ปี นักบาสเกตบอล WNBA ที่ถูกศาลรัสเซียสั่งจำคุกมาตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี เพื่อแลกกับการปล่อยตัว วิกเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธข้ามชาติชาวรัสเซีย ที่ถูกจำคุกอยู่ในสหรัฐฯ โดยสื่อของรัสเซียรายงานว่า การแลกตัวนี้เกิดขึ้นที่สนามบินอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ไกรเนอร์ ถูกจับกุมตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2565 ที่สนามบินมอสโก ในข้อหาครอบครองน้ำมันกัญชา หลังจากที่เธอเดินทางถึงรัสเซียเพื่อร่วมเเข่งขันบาสเกตบอล และถูกตรวจพบว่าภายในกระเป๋าเดินทางของเธอมีเครื่องสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีน้ำมันกัญชา อันเป็นสารต้องห้ามผิดกฎหมายในรัสเซีย ก่อนที่จะถูกสั่งจำคุก 9 ปี เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2565 ในข้อหามีสารเสพติดในครอบครอง ซึ่งเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เธอเพิ่งถูกส่งตัวไปรับโทษที่ทัณฑนิคมแห่งหนึ่งในแคว้นมอร์โดเวีย
การเจรจาปล่อยตัว ไกรเนอร์ ล่าช้านั้น เกิดจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียที่ย่ำแย่ในช่วงดังกล่าว
ด้าน วิกเตอร์ บูท วัย 55 ปี เป็นพ่อค้าอาวุธที่ได้ฉายาว่า "พ่อค้าความตาย" หรือผู้ทลายการคว่ำบาตร เนื่องจากเขาสามารถหาหนทางขนอาวุธไปขายโดยหลบเลี่ยงคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายอาวุธได้ และขายอาวุธให้รัฐล้มเหลว รัฐอันธพาล รวมถึงกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ทั้งในแอฟริกา เอเชีย และอเมริกาใต้
บูท เคยเป็นบุคคลที่รัฐบาลต้องการตัวมากที่สุดในโลก ก่อนจะถูกจับกุมเมื่อปี พ.ศ.2551 ซึ่งบางคนบอกว่าเรื่องราวชีวิตของชายคนนี้ไม่ต่างจากหนังสายลับ
บูท เกิดที่ทาจิกิสถาน พ.ศ.2510 ตั้งแต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต เขาพูดได้หลายภาษา และเคยเข้ารับราชการทหาร ก่อนจะสร้างตัวขึ้นได้จากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ที่ทำให้เขานำอาวุธไปขายให้แก่กลุ่มที่สู้รบกันในสงครามกลางเมืองในหลายประเทศทั่วเอเชียและแอฟริกา
กระทั่งปี พ.ศ.2551 บูท ถูกจับที่ไทย ใน กทม. จากปฏิบัติการล่อซื้อทั้งมิสไซล์ภาคพื้นสู่อากาศ 100 ลูก และอาวุธอื่นๆ โดยลวงว่าจะเอาไปให้กบฏ FARC ในโคลอมเบีย ก่อนที่เขาจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในสหรัฐฯ ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการฆาตรกรรมชาวอเมริกัน และค้าอาวุธสงคราม โดยทางการสหรัฐฯ ระบุว่า อาวุธสงครามที่ บูท เตรียมนำเข้ามาในสหรัฐฯนั้น จะเป็นเครื่องนี้ในการทำลายประชาชนชาวสหรัฐฯ จำนวนมาก และเขาต้องรับโทษจำคุกถึง 25 ปี
การที่รัสเซียจงใจแลกเปลี่ยนตัว บูท อาจเป็นการตอบแทนพ่อค้าอาวุธรายนี้ เพราะเขาไม่เคยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เลย แม้จะถูกคุมขังมานานเกือบ 2 ทศวรรษ
ทนายความของ บูท ระบุว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ชายผู้นี้จะได้กลับสู่อ้อมกอดของครอบครัว หลังจากที่พวกเขาไม่ได้เจอหน้ากันยาวนานถึง 15 ปี
นอกจากนี้การปล่อยตัว บูท ยังเป็นการส่งข้อความถึงนักโทษรัสเซียคนอื่นๆ ที่กำลังเผชิญปัญหาคล้ายกันว่า แผ่นดินแม่อย่างรัสเซียไม่เคยลืมพวกเขา
ที่มา : CNN