สั่งยกเลิก "ไฟดิสโก้" งานวิ่งเทรลดอยอินทนนท์

ความคืบหน้ากรณีนักอนุรักษ์วิพากษ์วิจารณ์ถึงการจัดงานแข่งขันวิ่งเทรลในเส้นทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ว่าอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่อนุรักษ์

นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อายุรแพทย์โรคหัวใจ และที่ปรึกษาศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนักอนุรักษ์ ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า เป็นครั้งแรกที่มีการจัดงานวิ่งถึงยอดดอย โดยพบว่าการจัดเตรียมงานค่อนข้างใหญ่ มีนักวิ่งกว่า 5,000 คน รวมถึงญาติพี่น้องและทีมงาน ถือว่าเป็นจำนวนที่มากเกินกว่าขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อพืชพันธุ์สัตว์ป่า

นพ.รังสฤษฎ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้ขัดขวาง หรือต่อต้านการวิ่ง ซึ่งการวิ่งเทรลช่วยให้นักวิ่งได้ใกล้ชิด หรือสัมผัสธรรมชาติ แต่ไม่เห็นด้วยกับการจัดงานใหญ่ในพื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งฟางเส้นสุดท้าย คือ การจัดไฟแสงสี ลักษณะคล้ายไฟดิสโก้ ไฟเธค ที่บริเวณพระสถูปพระเจ้าอินทวิชยานนท์ บนจุดสูงสุดของดอยอินทนนท์ โดยมองว่าไม่เหมาะสมอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนเคารพ และเป็นจุดเปราะบางของธรรมชาติ

เป็นงานใหญ่ขนาดนี้และการจัดการไม่ดี เบี่ยงเบนจากประเด็นวิ่งเทรลเพื่อสัมผัสธรรมชาติ เพราะเอาแสงสี สิ่งแปลกปลอมเข้าไปมากมาย

นอกจากนี้ เสนอว่าหากจัดการอย่างเหมาะสมไม่ได้ ควรจัดงานเล็ก ๆ นักวิ่งไม่เกิน 200-300 คน และไม่ควรจัดงานใหญ่ในพื้นที่อนุรักษ์ เพราะวัตถุประสงค์หลักของอุทยานฯ คือ รักษาระบบนิเวศ ส่วนนันทนาการเป็นประเด็นรอง

คนที่จัดได้ผลประโยชน์มากมายนับสินล้าน แล้วคุณให้อะไรกับธรรมชาติ ไม่ยุติธรรม มาแล้วมาทำพังแล้วให้อะไรคืน ต้องถามคนที่ใช้ทรัพยากรร่วมกันด้วย ก็รับไม่ได้

นพ.รังสฤษฎ์ กล่าวว่า บนยอดดอยอินทนนท์ เป็นถิ่นอาศัยของนกกินปลีหางยาวเขียว หรือนกกินปลีดอยอินทนนท์ ซึ่งพบเป็นที่เดียวในโลก รวมทั้งนกกระจี๊ดคอเทา และเพียงพอนท้องเหลือง สัตว์ป่าหายาก ซึ่งแสงสีเสียงอาจเป็นปัจจัยกระทบการหากิน หรือเพิ่มภาระกับการใช้ชีวิตของสัตว์ป่า

สั่งยกเลิกติดไฟแสงสี 

ขณะที่นายเกรียงไกร ไชยพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กล่าวว่า การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ตั้งใจดูแลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ให้กระทบทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่า ส่วนเหตุการณ์ที่พบว่ามีการจัดไฟแสงสีนั้น เป็นช่วงระหว่างที่ผู้จัดงานกำลังเตรียมการ และเมื่อทราบข้อมูลที่ดูแล้วไม่เหมาะสม จึงได้สั่งยกเลิกการจัดไฟดังกล่าว

ซึ่งทีมงานผู้จัดฯ ตระหนักและคำนึงถึงผลกระทบ โดยเฉพาะเรื่องของขยะ ส่วนเส้นทางวิ่ง ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางสัญจรของชาวบ้านและชุมชนอยู่แล้ว มีเพียงส่วนน้อยที่อยู่นอกพื้นที่การเกษตร เป็นเส้นทางลาดตระเวน ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อสัตว์ป่า