วันนี้ (5 ธ.ค.2565) จ้าว เหว่ย ประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว จากกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมากล่าวหาว่า อยู่เบื้องหลังกลุ่มทุนจีนสีเทาในประเทศไทย
"จ้าว เหว่ย" ได้ปฏิเสธและถามกลับว่า "ชูวิทย์เป็นใคร" ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยสนิทสนม และไม่เคยพบปะ ทำไมถึงมากล่าวพาดพิง มีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่
โดยตนเป็นนักธุรกิจชาวจีนคนหนึ่งที่เข้ามาพัฒนาพื้นที่ให้มีความเจริญ และมั่งคั่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาอ้างชื่อไปเกี่ยวกับกลุ่มทุนสีเทาตามที่เป็นข่าวในประเทศไทย และพยายามเชื่อมโยงให้เกี่ยวข้องกับ 5 เสือมังกร โดยอ้างว่ามาเกี่ยวข้องกับตนนั้นแทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เพราะนักลงทุนจีนมีทั่วโลก หากจะกล่าวอ้างกัน ต้องมีหลักฐานมาพิสูจน์
ทุกวันนี้เขตเศรษฐกิจพิเศษ ไม่ใช่ดินแดนสนธยาตามที่ใครเข้าใจ แต่มีความปลอดภัย พร้อมต้อนรับทุกคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวอยากให้เข้ามาท่องเที่ยว มีความปลอดภัย และยังได้สัมผัสทั้งแหล่งท่องเที่ยว ชิมอาหาร และวิถีชีวิตของคนจีน และคนลาว
สำหรับกรณีที่สหรัฐอเมริกาขึ้นแบล็คลิสต์ นั้นไม่ได้ให้ความสนใจ และมองว่า มันไม่ยุติธรรม ซึ่งเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมคำในวันนี้ คือ พื้นที่สีขาว มีความปลอดภัย และเป็นแหล่งลงทุน ที่ในอนาคตจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกที่ใครๆ ก็ไม่ควรจะมองข้ามอีกต่อไป
จ้าว เหว่ย กล่าวว่าตั้งแต่ที่เข้ามาพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมื่อปี 2550 มักจะถูกคนภายนอกว่าเป็นพื้นที่สีเทา แหล่งค้ายาเสพติด แหล่งฟอกเงิน และแหล่งอาชญากรรมต่างๆ เพราะมีบ่อนกาสิโน "คิงส์โรมัน" ตั้งอยู่ด้วย แต่หากได้เข้ามาสัมผัสแล้ว จะเห็นว่า "บ่อนกาสิโน" คือส่วนหนึ่งของการลงทุนเท่านั้น ปัจจุบันได้มีกลุ่มทุนสิงคโปร์ เข้ามาเช่าเพื่อบริหารในระยะยาวเปลี่ยนชื่อมาเป็น ALLUXI CASINO