ฟุตบอลโลกเมื่อคืนที่ผ่านมาไฮไลท์อยู่ที่เกมนัดสุดท้ายของกลุ่ม ซี คู่บิ๊กแมตช์ ระหว่าง อาร์เจนตินา ที่นำทีมโดย ลิโอเนล เมสซี พบกับ โปแลนด์ ของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ซึ่งนัดนี้สถานการณ์บีบให้ทัพ "ฟ้า-ขาว" ต้องชนะเท่านั้นถึงผ่านเข้ารอบโดยอัตโนมัติ
ครึ่งแรก อาร์เจนตินา สร้างโอกาสได้มากกว่า แต่ยังเจาะตาข่ายคู่แข่งไม่เข้า โดยเฉพาะในนาที 38 ที่ เมสซี โดนผู้รักษาประตูทำฟาวล์ในกรอบ 18 หลา แต่ เมสซี ที่รับบทมือสังหารยิงลูกโทษไปติดเซฟ ทำให้ 45 นาทีแรก จบลงด้วยการเสมอกัน 0-0
แต่ครึ่งหลังเปิดฉากได้ไม่ถึงนาที อาร์เจนตินา ก็ทำประตูขึ้นนำได้สำเร็จ จากการยิงของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
จากนั้นนาที 67 อาร์เจนตินา มาได้ประตูย้ำชัย จากฝีเท้าของ ฮูเลียน อัลวาเรซ พาทีมเอาชนะ โปแลนด์ ไป 2-0 เก็บ 3 คะแนน ผ่านเข้ารอบได้ตามเป้า
เม็กซิโก เฉือนชนะ ซาอุดีอาระเบีย 2-1
อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน เม็กซิโก พบ ซาอุดีอาระเบีย โดยทั้ง 2 ทีมยังมีโอกาสลุ้นผ่านเข้ารอบด้วยกันทั้งคู่ กว่าประตูจะเกิดขึ้นในเกมนี้ต้องรอถึงช่วงครึ่งหลัง และเป็น เม็กซิโก ที่ขึ้นนำก่อนจาก เฮนรี มาร์ติน นาที 47 หลังจากนั้น หลุยส์ ชาเวซ มายิงเพิ่มในนาที 52 ช่วยให้ เม็กซิโก นำห่างเป็น 2 ลูก
แม้จะนำห่าง แต่ เม็กซิโก ยังโหมบุกหนักเพราะต้องวัดประตูได้เสียในการผ่านเข้ารอบ แต่มาโดน ซาอุดีอาระเบีย มายิงประตูตีตื้นช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย แม้เกมจะจบลงด้วยชัยชนะของ เม็กซิโก 2-1 แต่ประตูที่พวกเขาเสียไปในนาทีบาป ส่งผลร้ายแรงต่อโอกาสเข้ารอบ
เพราะสรุปอันดับตารางคะแนนของกลุ่ม ซี อาร์เจนตินา เก็บ 6 คะแนน จากการชนะ 2 นัด ผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ขณะที่ โปแลนด์ กับ เม็กซิโก มี 4 คะแนนเท่ากัน แต่กลับเป็นฝั่ง โปแลนด์ ที่ได้สิทธิ์ผ่านเข้ารอบ เพราะมีผลต่างประตูได้เสียดีกว่า เม็กซิโก แค่ประตูเดียวเท่านั้น ขณะที่ ซาอุดีอาระเบีย ที่ช็อกโลกด้วยการชนะ อาร์เจนตินา ในเกมแรก แพ้คู่แข่งใน 2 นัดที่เหลือ มี 3 คะแนนรั้งอันดับสุดท้ายของกลุ่ม