ความคืบหน้าหลังศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว เพราะเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่คุมตัวนายตู้ห่าว ไปยังทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางทันที
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ยืนยันว่า ตำรวจขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมแน่นอน โดยพบผู้บริหารจัดการทรัพย์สินให้กับนายตู้ห่าว หนึ่งในนั้นเป็นนักธุรกิจหญิงคนใกล้ชิด คาดว่ามีทรัพย์สินอีกกว่า 1,000 ล้านบาท
การดำเนินคดีกับบุคคลใกล้ชิด ก่อนหน้านี้ตำรวจยึดทรัพย์สินหลานชายของตู้ห่าว ชื่อนายหวัง เจิ้นหนาน อายุ 21 ปี ยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท เป็นการขยายผลจากรถหรูที่จอดอยู่หน้าผับจินหลิง และวันที่ตำรวจค้นผับจินหลิง พบนายหวังอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย แม้จะถูกจับแต่ได้รับการประกันตัว ซึ่งมีรายงานว่า นายหวังหลบหนีไปแล้วตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งแต่งตั้ง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสวนข้อเท็จจริง โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กำกับดูแล กรณีที่ รอง ผบก.น.6 ถูกกล่าวหาว่าคืนรถหรูของกลางจำนวน 4 คันที่ยึดจากผับจินหลิง แลกเรียกรับเงิน 8 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ รอง ผบก.น.6 ถูกสั่งย้ายออกนอกพื้นที่แล้ว
ผบ.ตร.ยืนยันว่าหากพยานหลักฐานไปถึงใครก็จะดำเนินคดีทั้งหมด เบื้องต้นยอมรับว่ากรณีดังกล่าวหากไม่มีมูลก็แจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีไม่ได้ แต่หากมีการแจ้งข้อกล่าวก็แสดงว่ามีมูลอยู่ ส่วนรายละเอียดไม่อยากก้าวล่วงให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน
ส่วนจะมีระดับใหญ่กว่า รอง ผบก.น.6 หรือไม่ที่เรียกรับเงิน 8 ล้าน ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน จะไปพูดถึงหรือพาดพิงใครไม่ได้ ขณะนี้พยานหลักฐานถึงนายตู้ห่าว ก็ดำเนินคดีขออนุมัติหมายจับไปแล้ว
อ่านข่าวอื่นๆ
มาจากไหน? เจอ "แมวส้ม" ซ่อนในกระเป๋าเดินทางที่สนามบินสหรัฐฯ