แม้จะยังไม่มีใครยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้ แต่วงในหลายกระแสยืนยันตรงกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ เลือกจะเป็นแคนดิเดทนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ตามการแบะท่าเชื้อเชิญของ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค
ซึ่งเป็นคนที่ พล.อ.ประยุทธ์ ดึงมาใช้งานและมอบหมายภารกิจสำคัญหลายอย่างให้ทำในช่วงที่ผ่านมา เช่น แนวทางแก้รัฐธรรมนูญปี 60 เป็นบอร์ดการบินไทย ช่วงเข้าสู่แผนฟื้นฟู
สาระดังกล่าว สอดคล้องกับมุมมองนักวิชาการหลายคนมาฟันธงก่อนหน้านี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เลือก รทสช.สำหรับการไปต่อบนเส้นทางการเมือง โดยจะมีแกนนำและ ส.ส.จำนวนหนึ่ง มีแนวโน้มจะย้ายตามไปด้วย ถึงขั้นมีข่าวตรวจเช็กรายชื่อกัน ไม่ต่างจากในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มีข่าวว่า พล.อ.ประวิตร ต่อสายคุยกับ ส.ส.ในพรรคแบบเรียงตัว
แม้ก่อนหน้านี้ พรรคพลังประชารัฐอยู่ในภาวะระส่ำระสาย มีข่าว ส.ส.ของพรรคจะย้ายออกตลอด ยิ่งปรากฏภาพ ส.ส.ของพรรคนับสิบคนไปร่วมงานวันคล้ายวันเกิดครูใหญ่ แห่งพรรคภูมิใจไทย นายเนวิน ชิดชอบ พรรคพลังประชารัฐ ถึงขั้นถูกเปรียบเปรยว่า “แพกำลังแตก”
แต่หากสังเกตให้ดี หลังนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.อาวุโส ทิ้งบอมบ์ใส่ พล.อ.ประยุทธ์ เสนอให้สมัครเป็นสมาชิกพรรคและหนุน “บิ๊กป้อม” เป็นนายกฯ ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้นในพรรค พปชร. หลายกลุ่มหลายก๊กที่ก่อนหน้านี้มีข่าวจะย้ายออก หรือลังเลสองจิตสองใจ กลายเป็นกลับมารวมกลุ่มพร้อมหนุน พล.อ.ประวิตรนำพาพรรคพลังประชารัฐไปต่อ
ได้เห็นการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประวิตร กลับมาคึกคัก มีขุนพลคู่กายติดตามตลอด อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค หัวหน้ากลุ่มจ.เพชรบูรณ์ และดูแลภาคเหนือ
นายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีตประธานวิปรัฐบาล ดูแลพื้นที่อีสานใต้ ส่วนเรื่องกฎหมายกฎระเบียบ เป็นหน้าที่ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน
แม้แต่กลุ่มสามมิตร ของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ได้เห็นภาพการขับเคลื่อนอย่างแข็งขัน รวมทั้งซุ่มลงพื้นที่ภาคใต้ของนายสมศักดิ์ มีการประสานกับนายทวี สุระบาล อดีต ส.ส.ตรัง หลายสมัย
พรรคประชาธิปัตย์ และนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส ซึ่งรายหลังสุด โดยนายสมศักดิ์ลงไปช่วยหาเสียง และประกาศว่า จะมีรัฐมนตรีจาก จ.นราธิวาส
หากค้นหาเพิ่มเติมให้ลึกลงไป จะพบว่ามีประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการถึง 2 ชุดของพรรคพลังประชารัฐในช่วงนี้ คือ 1.กรรมการขับเคลื่อน 3 พันธกิจด้านสวัสดิการ เศรษฐกิจ และสังคมประชารัฐ และ 2.แต่งตั้งกรรมการนโยบายพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้กำหนดนโยบายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
จะพบว่า มีคนในสายนายสมศักดิ์ นายวิรัช และกลุ่มปากน้ำจากบ้านใหญ่ “อัศวเหม” อยู่ครบครัน ทั้งนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี ซึ่งกำลังจะเป็นแกนหลักในสนามเลือกตั้งชลบุรี เพียงแต่จะมีกลุ่มบ้านใหญ่ของนายสนธยา คุณปลื้ม ร่วมด้วยหรือไม่เท่านั้น
นอกจากนั้น ยังมีนางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย น้องสาวนายสมศักดิ์ นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี สายนายสมศักดิ์ เช่นเดียวกับนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ลูกชายนายวิรัช ส่วนกลุ่มปากน้ำ สมุทรปราการ มีนายอัครวัฒน์ อัศวเหม
จึงเป็นทั้งการจัดทัพเตรียมพร้อมรับเลือกตั้ง และสะท้อนกลุ่มการเมืองใหญ่ ยังมั่นคงเหนียวแน่นเช่นเดิมกับ “บิ๊กป้อม” และพลังประชารัฐ