การเปิดให้ต่างชาติเป็นเจ้าของที่ดินที่พักอาศัย ทำกันในหลายประเทศขึ้นอยู่กับนโยบายและเป้าหมายของรัฐบาลประเทศนั้น สำหรับไทยกำลังต้องการเงินลงทุนจากต่างประเทศ จึงฟื้นนโยบายนี้ขึ้นมา แล้วไทยพร้อมแล้วหรือไม่
มติ ครม.สัปดาห์ก่อนอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงที่จะให้ต่างชาติซื้อที่ดินเป็นที่อยู่อาศัยได้ไม่เกิน 1 ไร่ นำมาสู่ข้อถกเถียงหลายฝ่าย เหตุผลที่กระทรวงมหาดไทย ผู้เสนอร่างกฎหมาย ระบุไว้คือเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนเพราะกำหนดเอาไว้ว่า ผู้มีสิทธิ์ต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท และคงการลงทุนอย่างน้อย 3 ปี ในกิจการหรือธุรกิจที่ร่างกฎกระทรวงกำหนดถึงจะยื่นขอใช้สิทธิได้
ปัจจุบันประเทศไทยเปิดให้ชาวต่างชาติถือครองที่อยู่อาศัยได้อยู่แล้ว แต่เป็นประเภทคอนโดมิเนียม ข้อมูลปี 2562 มีต่างชาติรับโอนกรรมสิทธิ์ประมาณ 10,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 50,000 กว่าล้านบาท เทียบได้เป็น 5 เปอร์เซ็นต์ ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปีนั้น
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ประเมินว่า หากซื้อบ้านพร้อมที่ดินในไทยได้วย รวมกับการซื้อคอนโดเดิมเงินจะโตเป็น 3 เท่า หรือปีละ 150,000 ล้านบาท คิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในแต่ละปี
ส่วนสัญชาติที่โอนกรรมสิทธิ์คอนโดในไทยสูงสุดในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา พบว่า ทั้งจำนวนยูนิตและมูลค่าสูงสุด คือ จีน แต่การซื้อส่วนใหญ่ซื้อราคาไม่เกิน 5,000,000 บาท แต่สัญชาติที่ซื้อห้องชุดใหญ่ พื้นที่กว้าง คือ อินเดีย ซื้อห้องชุดไซส์เฉลี่ย 73.2 ตารางเมตร รองลงมาเป็น ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร และเป็นที่น่าจะสนใจว่า อินเดีย ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร จะเป็นกลุ่มใหม่ที่จะซื้อบ้านและที่ดินด้วยหรือไม่
รัฐบาลพยายามอธิบายแย้งฝ่ายเห็นต่างว่า นโยบายนี้เจาะจงต่างชาติที่มีศักยภาพ 4 กลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เอื้อเศรษฐกิจไทยและจำกัดช่วงเวลาที่ซื้อได้ คือ ผู้มีความมั่งคั่งสูง ผู้เกษียณจากต่างประเทศ ผู้ต้องการทำงานจากไทย และกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ
พร้อม? เปิดทางต่างชาติซื้อที่ดินไทย
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงก์ชาติ ระบุว่า การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล แบงก์ชาติรับรองสถานะได้แค่เวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น อาจต้องมีกระบวนการออกมาควบคุมเพิ่มเติมให้ลงทุนเกิน 3 ปี
ขณะที่ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า ต้องกำหนดระดับราคาซื้อ เช่น ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ห้ามซื้อแล้วปล่อยขายเก็งกำไร และควรมีภาษีค่าธรรมเนียมที่ต่างจากคนไทย
นายนณริฏ พิศลยบุตร นักเศรษฐศาสตร์ มองว่ารัฐบาลยังต้องออกมาตรการควบคุมอีกมาก ตรวจสอบได้หรือไม่ว่าที่มาที่ไปของเงินลงทุนในไทยใสสะอาด เข้ามาแล้วไม่ได้มาทำธุรกิจสีเทา เช่น ตั้งแก๊งคอล์เซนเตอร์ ตั้งแก๊งเรียกค่าไถ่ลักพาตัว ขณะที่กลุ่มคนเก่งการมีบ้านและที่ดินตรงใจที่กลุ่มคนเก่งอยากได้หรือไม่
เป้าหมายไทย ต้องการกลุ่มคนมั่งคั่ง กลุ่มคนเก่ง เพื่อเอื้อต่อเศรษฐกิจไทย แต่ต้องตอบคำถามให้ได้ ว่าไทยพร้อมแล้วจริง ๆ ปิดความเสี่ยงได้แล้วจริง ๆ