กรณีตำรวจนครบาลเข้าตรวจสอบสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเขตยานนาวา กทม. ซึ่งพบว่าลักลอบเปิดให้บริการผิดกฎหมาย และตรวจพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวจีน บางส่วนตรวจพบมีสารเสพติดในร่างกาย
เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2565 จากการตรวจสอบสถานบันเทิงแห่งนี้ อยู่ติดถนนเจริญราษฎร์ สังเกตจากด้านนอกเหมือนอาคารทั่วไป ด้านในแบ่งเป็นล็อก เป็นร้านค้าและศูนย์บริการรถยนต์ หรือคาร์แคร์ ช่วงกลางวันเหมือนเปิดทำธุรกิจทั่วไปแต่กลางคืนเปิดเป็นสถานบันเทิง
คืนที่ตำรวจเข้าตรวจค้น พบนักท่องเที่ยวชาวจีนถึง 237 คน ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่า ตำรวจเจ้าของพื้นที่อาจปล่อยปละละเลยให้มีสถานบันเทิงนี้ เพราะพบว่าเปิดสถานบันเทิงโดยไม่ได้รับอนุญาต เปิดเกินเวลา และพบการมั่วสุมเสพยาเสพติด
พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า มีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.ธนโชติ ฤกษ์ดี ผกก.สน.ยานนาวา ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 6
อ่านข่าวเพิ่ม ผบก.น.6 สั่งย้าย "ผกก.สน.ยานนาวา" เซ่นตรวจผับเปิดเกินเวลา
ตร.แจ้งข้อหาผู้ประกอบการครอบครองยาเสพติด
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา นายสิทธิพงษ์ และ นายไฮเทา ฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เป็นยาอีและเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่าย และข้อหามีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ยาเคตามีน ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
ส่วนนักท่องเที่ยวที่ตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย ส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจยืนยันชนิดสารเสพติดและดำเนินคดี
ขณะเดียวกันประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองรับนักเที่ยวที่เหลือ 125 คน ตรวจสอบประวัติและหนังสือเดินทาง จากนั้นจะพิจารณาเพิกถอนวีซ่าและส่งกลับประเทศ
ตบตาธุรกิจคาร์แคร์บัรับฝากยาเสพติด
สำหรับสถานประกอบการนี้ มีอาคารร้านค้าแยกเป็น 3 อาคาร ทำธุรกิจประเภทศูนย์บริการรถยนต์ ส่วนที่ลักลอบเปิดให้บริการมั่วสุม สิ่งผิดกฎหมายจะอยู่ด้านในสุด ภายในตกแต่งสวยงาม และมีระบบเก็บเสียงมิดชิด
ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ระบุพฤติกรรมผู้ประกอบการว่า ผู้ใช้บริการจะทราบว่า ที่นี่มีจัดจำหน่ายยาเสพติด และยังมีบริการรับฝากกรณีลูกค้าเสพไม่หมดอีกด้วย โดยจะเป็นการรับลูกค้าประจำ และรับรู้กันเพฉาะกลุ่มชาวจีน
โดยส่วนใหญ่ก็อาศัยอยู่ในไทยทำธุรกิจ ค้าขายและเป็นกลุ่มที่มีฐานะทางการเงิน เรียกได้ว่าเป็นสถานที่มั่วสุมเสพยาที่รู้เฉพาะกลุ่ม เปิดบริการมาได้ประมาณ 4 เดือน มีคนไทยดูแลแต่นายทุนคือชาวจีน
ชูวิทย์ แฉผับศูนย์เหรียญทุนจีน
ด้าน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ให้ความเห็นถึงการทำธุรกิจสีเทาในไทยของชาวจีนว่า มีลักษณะคล้ายทัวร์ศูนย์เหรียญ จีนทำ จีนเที่ยว จีนได้เงิน แต่สันนิษฐานว่า อาจจะมีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็น และได้ผลประโยชน์จากธุรกิจด้วย
กลุ่มธุรกิจประเภทนี้ได้ขยายพื้นที่ลงทุน ต่างจากในอดีตที่พบมากในสุทธิสาร รัชดา ห้วยขวาง ปัจจุบันพบในเอกมัย ทองหล่อ พระราม 3 และสาทร
สำหรับนักท่องเที่ยว หรือนักธุรกิจจีนที่เดินทางเข้าไทย ที่กระทรวงการท่องเที่ยวเเละกีฬา เก็บสถิติตั้งเเต่ พ.ค-ก.ย.นี้ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ช่วงพ.ค.จำนวน 14,930 คน มิ.ย.จำนวน 20,040 คน ก.ค.จำนวน 27,175 คน ส.ค.จำนวน 29,985 คน และ ก.ย.32,302 คน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง