ถึงวันนี้ 2 ป.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จากบัญชีนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังคงแยกกันเดิน ขยันลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมงานตุนคะแนนนิยมใส่กระเป๋า
ท่ามกลางข้อกับขา เป็นยุทธศาสตร์แยกกันเดิน เป้าหมายดาวดวงเดียวกัน หรือสร้างดาวคนละดวง
เพราะเมื่อลงลึกในรายละเอียด จะเห็นว่าทีมงาน และ ครม.บางส่วนที่ร่วมคณะลงไปก็เป็นคนละชุด คณะ “บิ๊กตู่” จะมี พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และ ผอ.พรรคพลังประชารัฐ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส ยืนพื้น
ขณะที่คณะ “บิ๊กป้อม” จะมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรคพปชร. นายวิรัช รัตนเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคและอดีตประธานวิป พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม อาจมีนายชัยวุฒิ สอดแทรกร่วมทีมไปด้วยในบางงาน
ล่าสุด พล.อ.ประวิตร ยกทีมลงใต้ยะลา-ปัตตานี ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์และคณะ ไปสิงห์บุรี ตรวจสภาพน้ำท่วม เพราะเป็นหนึ่งใน 3-4 จังหวัด ที่ประชาชนกำลังจมทุกข์ มิหนำซ้ำล่าสุด พนังกั้นน้ำชะลอน้ำเหนือยังพังอีกต่างหาก
แม้ภารกิจของทั้ง 2 ป.เป็นเรื่องความตระหนักในความเดือดร้อนของประชาชน และเป็นแกนนำรัฐบาล ที่สำคัญเรื่องการดูแลน้ำทั้งคู่ แต่กลับไม่เห็นเดินทางคู่กัน ทริปเดียวกันให้เห็น โดยมีข่าววงในเรื่องสายสัมพันธ์ที่เขม็งเกลียวเป็นตัวช่วยเติม
2 ป.มาถึงจุดกินแหนงแคลงใจถึงขั้นไม่ยอมคุยกันแล้วหรือ จนลูกพรรคอึดอัดลังเล บางส่วนเตรียมพร้อมย้ายบ้านไปอยู่พรรคใหม่ บางส่วนสองจิตสองใจรอดูความชัดเจนแต่ยิ่งเนินนานยิ่งอึมครึม จนหลายรายต้องออกโรงเรียกร้องให้ 2 ป.คุยกันให้จบ ว่าจะเอาอย่างไร
ใครจะเป็นนายกฯในบัญชีพรรคอันดับ 1 อันดับ 2 การประชุมพรรค 27 ต.ค.นี้ ต้องเอาให้จบ ทั้งแคนดิเดทนายกฯ นโยบายหาเสียงพรรค รวมกระทั่งให้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อให้เกิดความมั่นใจในหมู่สมาชิกพรรคเสียที
หรือแม้แต่ข้อเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเสียที อย่ามัวแต่เอ้อระเหย หาไม่แล้ว พรรคจะเล็กลง และกลายเป็นพรรคใหญ่อันดับ 2 ในซีกรัฐบาล แต่ก็ยังไม่เห็นการสนองตอบ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังคง “ลุคใหม่” ดังที่คนใกล้ชิดกล่าวอ้าง คือพูดกับสื่อให้น้อย มุ่งมั่นเรื่องการทำงานให้มาก ซึ่งก็ไม่รู้ว่า เป็นวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ กับในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ผู้คนอยากได้ยินคำตอบจากรัฐบาล ทั้งเรื่องแก้ไขเยียวยาเรื่องน้ำท่วม เครื่องปรับครม.หรือยุบสภาจะเลือกแบบไหน กรอบระยะเวลาเป็นอย่างไร หากกฎหมายลูก 2 ฉบับออกไม่ทัน รัฐบาลจะทำอย่างไร
คำถามมีมากมาย แต่จุดเริ่มต้นของคำตอบเหล่านี้ น่าจะเริ่มต้นที่การเปิดใจคุยกันระหว่าง “บิ๊กตู่” กับ “บิ๊กป้อม” อันเป็นการถอดสลัก ช่วยให้มองเห็นปัญหาความไม่ชัดเจนทั้งหมดที่กำลังประดับงประเดที่ถูกบดบังอยู่
เป็นศึกในกันเองของพี่น้อง 2 ป.
วิเคราะห์โดย : ประจักษ์ มะวงศ์สา