วันนี้ (18 ต.ค.2565) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการ และกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการแก้ไขปัญหาอาวุธปืนและยาเสพติด
โดยมีมาตรการระยะเร่งด่วนสำคัญ 4 มาตรการ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว นําไปใช้ได้จริงในการสร้างความปลอดภัย ต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
มาตรการเกี่ยวกับอาวุธปืน
- การอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน เช่น เพิ่มเติมเอกสารใบรับรองแพทย์ หนังสือรับรองจากต้นสังกัด นายจ้าง
- การจัดการอาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือที่มีกฎหมายห้ามออกใบอนุญาต โดยผ่อนผันให้ผู้ครอบครองนําอาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือที่มีกฎหมาย ห้ามออกใบอนุญาตมาส่งมอบให้แก่ภาครัฐหรือนํามาขึ้นทะเบียน
- การป้องกันและปราบปรามในเชิงรุก เช่นตรวจจับการค้าอาวุธที่ไม่ได้รับอนุญาต
- มาตรการทางดิจิทัล เช่น การป้องกันการค้าอาวุธปืนบนแพลตฟอร์มดิจิทัล
คุมเข้มสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด
มาตรการด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เช่นการควบคุมสารเคมีที่นำใช้ผลิตยาเสพติด การทำลายเครือข่ายนักค้านาเสพติดและยึดทรัพย์ ติดตามจับกุมผู้มีหมายจับคดียาเสพติด การค้นหาผู้ติดยาเสพติดทั่วประเทศ การติดตามข้อร้องเรียนประชาชน การทบทวนผู้เสพเป็นผู้ป่วย และการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM)
มาตรการด้านการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ประกอบด้วย ระยะเร่งด่วน ค้นหาและคัดกรองผู้ป่วยจิตเวช ระยะกลาง เร่งรัดจัดตั้งสถานฟื้นฟูสมรรถภาพ และระยะต่อเนื่อง โดยใช้ชุมชนเป็นฐานบำบัดยาเสพติด
อ่านข่าวเพิ่ม กางคดียาเสพติด ปี 65 “ยาบ้า” จับกุมสูงสุด 23,365 กก.
มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพจิต เช่น การพัฒนาเครือข่ายในและนอกระบบสุขภาพ และการพัฒนาเครือข่ายในชุมชน ทั้งนี้ มาตรการที่ออกมา มีความครอบคลุมในการแก้ปัญหา แต่ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด
นายกรัฐมนตรี กำชับว่าสิ่งใดที่สามารถดำเนินการได้ขอให้ทำทันที และให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนภายใน 3 เดือน ต้องตรวจสอบ ดำเนินการ ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นไปตามกฏหมาย
โดยหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ต้องขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติเพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน สามารถป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
ทั้งนี้การปฏิบัติให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมในระยะเร่งด่วน พร้อมเน้นย้ำหน่วยงานในท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ ให้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาด้วย และให้มีการรายงานผลดำเนินงานให้ทราบภายในกรอบเวลาที่เหมาะสมต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง