แต่สำหรับพรรคก้าวไกล อาจดูไม่หวือหวาบนหน้าสื่อมากนัก เมื่อเทียบกับพรรคการเมืองประเภทขาประจำบนหน้าสื่อ แต่เป็นพรรคที่มองข้ามไปไม่ได้ เพราะเป็นพรรคสานต่อเจตนารมณ์ของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเคยสร้างความฮือฮา ทั้งตัวหัวหน้าพรรค นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เป็นขวัญใจคนรุ่นใหม่
นโยบายของพรรคที่โดนใจคนรุ่นใหม่และคอการเมือง ที่ต้องการเห็นการเมืองแบบใหม่ เช่น การปฏิรูป รวมทั้งปฏิรูปกองทัพ ลดขนาดและงบประมาณ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร จนทำให้เลือกตั้งปี 2562 ได้ส.ส.ถึง 81 คน มากเป็นอันดับ 3 รองจากพรรคเพื่อไทยและพลังประชารัฐ
แม้ขณะนี้ พรรคก้าวไกลไม่มีนายธนาธร ไม่มี นายปิยะบุตร แสงกนกกุล และ ช่อ- พรรณิการ์ วานิช เพราะถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ์การเมือง 10 ปี จากพรรคพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ
แต่คนใหม่ที่เข้าไปเป็นหัวหน้าพรรคแทนที่ อย่างนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ได้รับการยอมรับเรื่องการมีวิสัยทัศน์ ประกอบกับคณะผู้บริหารพรรคในพรรคปัจจุบัน ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ๆ และมีผลงานเป็นที่ยอมรับในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสภาผู้แทนฯหลายครั้ง
นายพิธาประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี นอกเหนือจากแนวทาง “เปลี่ยนนายกฯ ไม่พอต้องเปลี่ยนประเทศ โดยมีข้อแตกต่างจากพรรคการเมืองอื่น คือพรรคก้าวไกลไม่ให้ความสำคัญกับนักการเมือง “บิ๊กเนม” หรือส.ส.อย่างที่พรรคการเมืองอื่นชื่นชอบ ต่างจากพรรคการเมืองอื่น ที่ให้น้ำหนักและคุยโวกับการได้นักการเมืองขาใหญ่ หรือเคยมีตำแหน่งใหญ่
ไม่เพียงเท่านั้น พรรคก้าวไกลไม่ง้อ ส.ส.เห็นได้จากการเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ และเมื่อไม่กี่วันก่อน ในการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.กรุงเทพฯ ปรากฎว่าไม่มีรายชื่อเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคหลายคน
เรื่องที่น่าสนใจของพรรคก้าวไกล คือยังเน้นฐานเสียงสนับสนุนไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงมีภาพการช่วยเหลือกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มต่าง ๆ รวมทั้งให้คำแนะนำแก่ผู้ใช้ไฟฟ้า
ไม่เพียงเท่านั้น ในสนามเลือกตั้งหลายจังหวัดหลายเขตเลือกตั้ง ทั้งในภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และที่สำคัญ ในภาคอีสาน แม้ผู้สมัครของพรรคจะไม่ชนะเลือกตั้ง แต่ได้อันดับ 2 หรือ 3 ทั้งที่เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ ผลจากคะแนนเหล่านี้ ทำให้เชื่อว่า อาจจะมีผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะเกิดขึ้น
ส่วนคะแนนนิยมในพรรคก้าวไกล ที่สะท้อนผ่านรายชื่อพรรคการเมือง ที่ได้รับอุดหนุนเงินภาษี จากผู้เสียภาษีที่ต้องการอุดหนุนเงินภาษีให้แก่พรรคการเมือง ปรากฏว่า พรรคก้าวไกล ติดอันดับ 1 จากยอดผู้บริจาค 27.5 ล้านบาท เทียบกับอันดับ 2 พรรคประชาธิปัตย์ ที่มียอดรวมเพียง 10.3 ล้านราย และได้รับเงินบริจาคเพียง 3.43 ล้านบาท
ยังไม่นับโพล 2 สำนักหลังสุด อีสานโพลของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ที่ให้นายพิธา ชนะอันดับ 2 ทั้งในฐานะหัวหน้าพรรค และกลุ่มพรรคการเมือง
ประจักษ์ มะวงศ์สา เขียน