วันนี้ (18 ก.ย.2565) เป็นเวลาหลายปีแล้วที่กลุ่มทุนจีน เข้าไปลงทุนในตลาดการค้า-การลุงทุนในลาว โดยเฉพาะในนครหลวงเวียงจันทน์ จะเห็นโครงการทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก ภายใต้การลงทุนของกลุ่มทุนจีน
การเปิดเดินรถไฟลาว-จีน ย่อมต้องเป็นการเอื้อต่อการเข้าไปลงทุนของกลุ่มทุนจีนในลาวมากขึ้น และหมายถึงกลุ่มทุนไทย ที่จะต้องปรับตัว โดยเฉพาะธุรกิจ SME และยิ่งเมื่อลาวมีการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษรองรับอุตสาหกรรมการผลิตและบริการ ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ก็ยิ่งดึงดูดนักลงทุนจีนที่ลงทุนในลาวอยู่แล้วให้เพิ่มมากขึ้นอีก
แต่ในมุมมองของสมาพันธ์เอส SME ไทย ยังมีมุมบวกหรือปัจจัยเชิงบวกต่อธุรกิจไทย ทั้งเส้นทางการขนส่งกระจายสินค้า และบริการใหม่ ที่มีต้นทุนต่ำลงจากทางถนนถึง 2 เท่า และระยะเวลารวดเร็วขึ้น
ช่องทางการตลาดใหม่ตามแนวรถไฟฟ้ากว่า 45 สถานี ในพื้นที่จีน-ลาว ที่จะเป็นฐานลูกค้าใหม่ของสินค้าและบริการจากประเทศไทย ผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยว และภาคการบริการ การคมนาคมเดินทาง จะเป็นโอกาสเปิดช่องทางการท่องเที่ยวมูลค่าเพิ่มใหม่ ๆ
ภาคธุรกิจเกษตรกับการเชื่อมโยงตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนผลผลิตภาคการเกษตรของมณฑลยูนนาน ที่มีมูลค่าถึง 49,176 ล้านหยวน เหล่านี้เป็นปัจจัยเชิงบวกต่อกลุ่มทุนไทย ที่มีความพร้อมในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลง