เพราะปลดล็อคกัญชา เป็นนโยบายหาเสียงตั้งแต่เลือกตั้ง มีนาคม 2562 ของพรรค และได้รับการต่อยอด เมื่อถอดกัญชาออกจากยาเสพติดประเภท 5 ได้ ตั้งแต่ 9 มิถุนายน 2565
ผลที่ตามมาคือคะแนนนิยมของพรรคภูมิใจไทยเพิ่มขึ้น อย่างเห็นได้ชัด ทั้งจากอีสานโพล ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อปลายเดือนมิถุนายน หลังปลดล็อคกัญชา ความนิยมทั้งในกลุ่มเพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นมาก รวมแล้วมากถึง 23.1 %
และคำตอบจากคำถามที่ว่า หากเลือกตั้ง ส.ส. ในวันสำรวจ จะเลือกพรรคการเมืองใด ปรากฏว่า พรรคภูมิใจไทย เพิ่มขึ้นถึง 5 % จาก 9 % ของการสำรวจครั้งก่อนเป็น 13.7 % อยู่อันดับ 3 รองจากพรรคเพื่อไทย ที่ได้ 36 % และพรรคก้าวไกล ได้ 19.5 %
โพลของซูเปอร์โพลล์ ในเดือนสิงหาคม 2565 พรรคภูมิใจไทยขยับขึ้นเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 20 % จากเดิม 14.2 % ขณะที่พรรคเพื่อไทย ยังอยู่อันดับ 1 แต่ลดลงเกือบ 2 % อยู่ที่ 25.1 % อันดับ 3 คือพรรคพลังประชารัฐ ลดลงจาก 22.3 % เหลือเพียง 15 %
นำไปสู่ความมั่นใจของพรรคภูมิใจไทย หลังปลุกวลีเด็ด “พูดแล้วทำ” และวลีนี้ ปรากฏอยู่บนป้ายเวทีกิจกรรมทางการเมืองของพรรคจนถึงปัจจุบัน
เพราะการปลดล็อคกัญชา ก่อให้เกิดผลพวงและปฏิกริยาจากหลายภาคส่วน เพราะเป้าหมายหลักกระทรวงสาธารณสุข หรือพรรคภูมิใจไทย จะย้ำว่า เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
แต่เมื่อปลดล็อคแล้ว กลับนำไปใช้ในเชิงนันทนาการและความบันเทิง มีการซื้อขายโจ่งครึ่ม ทั้งยังถูกนำไปใช้ผสมอาหารส่งผลถึงเด็กและผู้บริโภค จึงเกิดการต่อต้านจากหลายภาคส่วน แม้แต่กลุ่มหมอและบุคคลากรทางการแพทย์ ตัวช่วยสำคัญจึงอยู่ที่ร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง ที่พรรคภูมิใจเป็นผู้ผลักดันและเสนอเข้าสู่สภาฯ หวังตอบโจทย์และปิดช่องโหว่ทั้งหมด
แต่ในการประชุมสภาผู้แทนฯ พิจารณาร่าง กฎหมายดังกล่าว ในวาระ 2 กลับโดนสกัดเต็มเปา เมื่อเสียงส่วนใหญ่ให้ถอนร่างออกไปก่อน เพื่อนำกลับไปพิจารณาใหม่ให้รอบคอบ
ขณะที่เสียงที่ไม่เห็นด้วย ทั้งที่ในวาระแรกรับหลักการ กลับมีทั้งพรรคร่วมรัฐบาลอย่างประชาธิปัตย์ และพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ไม่เอาด้วย
แม้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ประชาธิปัตย์ จะปฏิเสธว่า ไม่ใช่เรื่องเกมการเมือง แต่ในทางปฏิบัติ ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นการเตะตัดขา หวังหยุดความร้อนแรงของพรรคภูมิใจไทยในสนามเลือกตั้ง
ส่วนในภาคใต้ ประชาธิปัตย์เป็นแชมป์เก่าอยู่ แต่กำลังถูกท้าทายจากพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศปักธงส.ส.ครั้งหน้า ไม่ต่ำกว่า 20 ที่นั่ง ขณะที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ กัญชาเป็นสิ่งต้องห้ามทางศาสนาของชาวมุสลิม
ยังไม่นับกรณีนายอนุทิน จะเป็นหนึ่งในแคนดิเดทนายกฯ ในฐานะตัวเลือกจากฝ่ายรัฐบาล หากมีการประชุมรัฐสภาโหวตเลือกนายกฯหลังวันชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญ หลัง 30 ก.ย.2565 กรณีพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ไปต่อ นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังจะเป็นแคนดิเดทคู่ชิงนายกฯในการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วย
ถอนร่างกฎหมายกัญชา จึงมีความหมายมากกว่าที่เห็นและเป็นไป