ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

The EXIT : อายัดบัญชีด่วน แผนสู้กลับคอลเซ็นเตอร์

สังคม
23 ส.ค. 65
17:55
11,043
Logo Thai PBS
The EXIT : อายัดบัญชีด่วน แผนสู้กลับคอลเซ็นเตอร์
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เปิด "ไต้หวันโมเดล" มาตรการอายัดบัญชีด่วน แนวทางสู้กลับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ สกัดเส้นทางเงิน บัญชีม้า รักษาเงินในบัญชีผู้เสียหาย

จุดเริ่มต้นของขบวนการคอลเซ็นเตอร์เกิดขึ้นที่ไต้หวัน เป็นเวลากว่า 10 ปีที่ไต้หวันเผชิญกับปัญหาการหลอกลวงลักษณะนี้

ข้อมูลของตำรวจไต้หวัน พบว่า ในปี 2563 มีผู้เสียหายแจ้งความ 541,386 ราย โอนเงินเพราะถูกหลอก 2,406 ราย มูลค่าความเสียหาย 293,800,000 ล้านเหรียญไต้หวัน หรือ กว่า 346 ล้านบาท

ไต้หวันตั้งศูนย์รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ถูกหลอก ประชาชนสามารถโทรศัพท์แจ้ง หรือแจ้งผ่านแอปพลิเคชันไลน์ 165 ตลอด 24 ชั่วโมง ภายในศูนย์มีตำรวจ และเจ้าหน้าที่ธนาคารทำงานร่วมกัน แบ่งกันเข้าเวรประมาณ 40 คน

ตำรวจและเจ้าหน้าที่ธนาคารจะตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากประชาชน หากพบว่ามีการโอนเงินให้ขบวนการคอลเซ็นเตอร์จริง ตำรวจเป็นผู้มีอำนาจแจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคารให้อายัดบัญชีได้ทันทีภายใน 10 นาที เพื่อระงับเงินของผู้เสียหายไม่ให้ถูกส่งออกไปยังต่างประเทศ หรือ บัญชีที่ 2 หรือ 3

การอายัดบัญชี ทำได้ชั่วคราวได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการกลั่นแกล้ง ผู้เสียหายมีหน้าที่ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ภายใน 24 ชั่วโมงเช่นกัน เพื่อให้การอายัดบัญชีดำเนินต่อไปได้ แต่หากไม่มีการแจ้งความดำเนินคดี บัญชีที่อายัดไว้ชั่วคราวจะถูกปลดการอายัด ไม่ให้เกิดความเสียหายกับเจ้าของบัญชี

สำหรับการอายัดบัญชีของศูนย์นี้ ตำรวจไต้หวันมีอำนาจสั่งอายัดเฉพาะบัญชีแรกที่ได้รับเงินโอนไปจากการหลอกลวง แต่หลังจากนั้นต้องสืบสวนต่อไปว่า เงินถูกโอนต่อไปยังบัญชีใด หากสุดท้ายพบการกดเงินจากตู้ ATM ต้องประสานขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด หรือ หากโอนไปต่างประเทศต้องประสานขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานของประเทศปลายทางเพื่อดำเนินการต่อไป

การอายัดบัญชี หรือ ชะลอการโอนเงินต่อไปยังบัญชีอื่น เมื่อผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอกให้โอนเงิน เป็นประเด็นหนึ่งที่ถูกพูดถึงในเวทีสาธารณะเพื่อนำเสนอผลการดำเนินโครงการส่งเสริมความยุติธรรมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ของนักศึกษาหลักสูตร ICPCJ สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย โดยศึกษารูปแบบการดำเนินงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไต้หวัน

ประเทศไทยหากมีการโอนเงินไปยังบัญชีม้าของขบวนการคอลเซ็นเตอร์หรือการหลอกลวง การแจ้งอายัดบัญชีบุคคลอื่น มีขั้นตอนคือผู้เสียหายต้องไปแจ้งความกับตำรวจให้เป็นคดีที่มีพนักงานสอบสวนเป็นผู้ดำเนินการสอบสวน จึงจะสามารถออกหมายไปยังธนาคารเพื่อขออายัดบัญชีของกลุ่มขบวนการคอลเซ็นเตอร์ได้

 

ภูวิชชชญา เหลืองธีรกุล นักศึกษาหลักสูตร ICPCJ สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย บอกว่า แม้การอายัดบัญชีบุคคลอื่นสามารถทำได้ แต่ในประเทศไทยยังมีขั้นตอนและใช้เวลา ดังนั้น การแก้ปัญหาเรื่องนี้จึงขึ้นอยู่กับความเร็วในการระงับบัญชีธนาคาร

ประเด็นปัญหาของคนที่เป็นผู้เสียหายส่วนมากเขาไม่สนใจหรอกว่าผู้กระทำความผิดจะติดคุกหรือไม่  เขาสนใจแค่ว่า เงินของเขาจะได้คืนหรือไม่ ซึ่งมันขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการระงับบัญชีธนาคารเพื่อที่จะไม่ให้มีการโอนต่อไปและเอาเงินออกไปในที่สุด

นักศึกษาหลักสูตร ICPCJ สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย  ให้ข้อมูลว่า พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ.2551 มาตรา 39 เปิดช่องให้ธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถออกประกาศกําหนดให้สถาบันการเงินดำเนินการในเรื่องที่เป็นประโยชน์ในการคุ้มครองผู้บริโภคได้

ขณะนี้ ธนาคารต่าง ๆ รับทราบและให้ความร่วมมือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับบัญชีม้า แต่ยังไม่มีประกาศหรือกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ให้ธนาคารดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม

การแก้ปัญหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในไทยต้องร่วมมือระหว่างหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ ตำรวจ กสทช. หรือบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่างๆ หรืออาจมีหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อดูแลเรื่องนี้โดยตรง ก็จะน่าจะแก้ปัญหาได้เร็วกว่าที่ต่างคนต่างทำ แต่ยังไม่มีการประสานความร่วมมืออย่างแท้จริง 

 

ข้อมูลจากศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย ระบุว่าตั้งแต่ 1 มีนาคม – 31 กรกฎาคม 2565 มีคดีเกี่ยวกับออนไลน์ 59,846 เรื่อง ในจำนวนนี้ 31,047 เรื่อง เป็นการหลอกลวงด้านการเงิน และ จากคดีทั้งหมดกว่า 50,000 เรื่อง มีความเสียหายเกือบ 3,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้สามารถติดตามอายัดเงินได้ทันเพียง 121,786,060 บาท

ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนกรกฎาคม 2565 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการจับกุมขบวนการบัญชีม้า 4 ครั้ง หมายจับ 1,230 หมาย จับผู้ต้องหารวม 1,025 คน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง