วันนี้ (20 ก.ค.2565) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ชี้แจงระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถึงกรณีที่ดินเขากระโดง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยระบุว่า ที่ผ่านมามีการอภิปรายหลายครั้งแล้ว ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิกับศาล ยืนยันว่า ได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการตามระเบียบและหลักธรรมาภิบาล
ยืนยันว่า เป็นเพียงผู้อาศัยในที่ดิน ขณะนั้นอายุเพียง 10 ปี ส่วนการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไม่ได้ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ นอกจากนี้ การให้รถไฟฯ ฟ้องประชาชนที่มีเอกสารสิทธิโดยชอบไม่เป็นธรรมกับประชาชนจึงต้องพิสูจน์ก่อน
ขณะนี้ทางการรถไฟฯ มีคำร้องไปที่ศาลปกครองให้มีกระบวนการวินิจฉัยเพราะการฟ้องศาลปกครองกลางเพื่อให้มีคำสั่งเพิกถอนที่ดินได้จะทำให้เกิดความสะดวก ไม่มีที่ดินตกหล่น พร้อมย้ำว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล หากมีการอภิปรายอาจจะเป็นการละเมิดศาลได้
ยืนยันขายหุ้น "บุรีเจริญ" ไม่ใช่นิติกรรมอำพราง
นายศักดิ์สยาม ส่วนกรณีการขายหุ้น ของ หจก.บุรีเจริญ ที่ระบุว่า เป็นการซื้อขายปลอมไม่มีการชำระเงินจริง และเป็นนิติกรรมอำพราง เพื่อให้ได้ในประโยชน์ในการประมูลโครงการของกระทรวงคมนาคม ยืนยันมีการซื้อขายจริงและมีหลักฐานเป็นเอกสารชำระเงินเรียบร้อย
ยืนยันว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ หจก.บุรีเจริญ และการซื้อขายไม่ยื่นหลักฐานที่กรมธุรกิจการค้า กรณีที่ต้องยื่นคือการเพิ่มทุนหรือจดใหม่ แต่กรณีนี้ไม่ต้องยื่นและการไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินกับปปช. เพราะเป็นกิจกรรมที่ยังไม่เข้าสู่ตำแหน่ง
งบฯลง "บุรีรัมย์" มาก เหตุที่ผ่านมาได้น้อย
ส่วนกรณีที่งบประมาณลงที่ จ.บุรีรัมย์ มากผิดปกติ นายศักดิ์สยาม ระบุว่า ในการจัดทำงบประมาณ ยืนยันว่า ขอจำนวนมากทุกปีแต่ได้งบประมาณเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น ยืนยันทำตามกระบวนการ และ 10 ปีที่ผ่านมาบุรีรัมย์ไม่ได้มีงบมากกว่าจังหวัดอื่นเช่น จ.พระนครศรีอยุธยา จ.นครราชสีมา และ จ.นครปฐมซึ่งการได้รับงบที่สูงเพราะ จ.บุรีรัมย์ ในอดีตได้งบประมาณน้อยทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการพัฒนา
ส่วนข้อกล่าวหาว่า มีการแบ่งซื้อแบ่งจ้างที่ผ่านมางบประมาณมีปัญหาตั้งแต่มีโควิด กระทรวงคมนาคมได้งบประมาณน้อย จึงต้องแบ่งสัญญา
แจง "MR-Map" ลดลงทุนภาครัฐ
นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวถึง ประเด็นแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง (MR-Map) เป็นการซ้ำซ้อนโครงการรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ และมอเตอร์เวย์ ทำให้รัฐต้องแบกรับภาระเกิดหนี้สูงถึง 5.7 ล้านบาท และเป็นการคัดเลือกเส้นทางเป็นเส้นทางที่เอื้อกับ จ.บุรีรัมย์ นายศักดิ์สยาม ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาได้เชิญนายสุรเชษฐ์ มาหารือเรื่องเส้นทางที่กระทรวงไปแล้วหลายครั้ง แต่นายสุรเชษฐ์ไม่มา
รวมถึงแผนดังกล่าวเพื่อลดการลงทุนของภาครัฐ เปิดโอกาสให้เอกชนลงทุนในรูปแบบ PPP เพิ่มการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์
การอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ฟังสมาชิกอภิปรายทั้งที่ดินรถไฟ การขายหุ้น การจัดสรรงบ และ MR-MAP ขอให้ดูข้อมูลให้ครบถ้วน เพราะประชาชนรับฟังทั้งประเทศ และยืนยันว่าการอภิปรายที่กล่าวมาไม่เป็นความจริง
ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ชี้แจงว่า กรณีการอภิปรายว่ามีการขายหุ้น ของ หจก.บุรีเจริญ ที่ระบุว่า เป็นการซื้อขายปลอมไม่มีการชำระเงินจริง และเป็นนิติกรรมอำพราง เพื่อให้ได้ในประโยชน์ในการประมูลโครงการของกระทรวงคมนาคม ยืนยัน มีการซื้อขายจริงและมีหลักฐานเป็นเอกสารชำระเงินเรียบร้อย
ถามกลับนำข้อมูลเท็จใช้อภิปรายหรือไม่
นายศุภชัย ยืนยันว่า เรื่องการซื้อขายเกิดตั้งแต่ ปี 2561 ก่อนการเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งก่อน 1 ปีและซื้อขายกับนาย... ตั้งแต่ปี 2560-2561 โอน 3 ครั้งและมีเอกสารรับรองการทำธุรกรรมการโอนเงินก่อนเป็น ส.ส.และดำรงตำแหน่ง
ขอถามคำถามกลับว่า มีการปกปิดข้อมูล หรือ ไม่ทราบ และอาจจะเป็นการนำข้อมูลเป็นเท็จเข้ามาอภิปรายหรือไม่ การทำหน้าที่ของท่านอาจผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่
นายนิรุฒิ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า หากการรถไฟฯ ฟ้องประชาชนที่มีเอกสารสิทธิโดยชอบ ไม่เป็นธรรมกับประชาชน จึงต้องพิสูจน์ก่อน ซึ่งปัจจุบันมี 2 กลุ่มทั้ง กลุ่มบุกรุกและมีเอกสารสิทธิ์ หากบุกรุกที่ผ่านมาได้มีการหารือว่าจะจัดสรรที่ดินให้แต่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องการจัดสรรที่ดินของกรมที่ดิน
ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ระบุว่า กรมที่ดินต้องเพิกถอนที่ดินก่อน การรถไฟฯจึงจะเพิกถอนที่ดินได้ ซึ่งการรถไฟฯได้พิสูจน์สิทธิกับศาลปกครองและอยู่ระหว่างรอคำสั่งศาลการกล่าวหาว่า ไม่บังคับคดี การรถไฟฯดำเนินการบังคับคดีไปแล้ว แต่จะใช้เวลานานแค่ไหนขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกรมบังคับคดี การกล่าวหาว่าไม่ดำเนินคดี ไม่เป็นความจริง
ทางหลวงย้ำตั้งงบฯคำนึงความคุ้มค่า
ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า การตั้งงบฯ ต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่า โครงข่ายเชื่อมต่อความต้องการของพื้นที่ กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทไม่ได้เลือกที่ใดเป็นพิเศษ และช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การของบประมาณและการจัดสรรงบประมาณแตกต่างมาก เพราะได้รับเพียง 1 ใน 3 และมีการระบุว่า จ.บุรีรัมย์ จ.ศรีสะเกษ ได้งบประมาณมากที่สุด แต่ในภาคอีสาน จ.นครราชสีมาได้รับมากสุด
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านได้อภิปรายว่างบประมาณมากระจุกในพื้นที่ของนายศักดิ์สยาม หากพิจารณางบประมาณซึ่งจะกระจายตามเส้นทางพื้นที่ และ จ.บุรีรัมย์ เป็นฮับอีสานใต้ หากพิจารณาโครงข่าย ความคุ้มค่าการดำเนินการ จึงมีโอกาสที่จะได้รับงบประมาณมากกว่าเดิม
การระบุว่า มีการเอื้อผู้รับเหมาบางราย มีการระบุการประกวดราคาอย่างชัดเจนโดยวิธี E-Bidding ตามระเบียบกระทรวงการคลัง โปร่งใส แข่งขันเป็นธรรม ไม่มีการเอื้อประโยชน์แน่นอน
นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวชี้แจงประเด็น MR-MAP ยืนยันว่า การทำ MR-MAP เพื่อแก้ปัญหาจราจรในอดีต และโครงการ MR-MAP ยังไม่ได้มีการลงทุน โครงการนี้ต้องทำเพื่อเตรียมพร้อมประเทศ เพื่อให้มีทุกระบบในรั้วเดียวกัน และอนาคตหากไม่มีการจัดระบบ อาจจะมีรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งเข้าไปในชุมชน