ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับความพยายามสกัดนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ไม่ให้แจ้งเกิดรอบใหม่บนเวทีการเมืองท้องถิ่น อย่างสนามเลือกตั้งกรุงเทพฯ
หลังจากหายไปจากสารบบการเมืองไทยถึง 8 ปี นับตั้งแต่ คสช.รัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลรักษาการ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยมีนายชัยเกษม นิติสิริ รักษาการนายกฯ เมื่อปี 2557
พร้อมสร้างปรากฏการณ์ ”ชัชชาติฟีเวอร์” ในการเลือกผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ไม่ต่างจาก “จำลองฟีเวอร์” เมื่อครั้ง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ปี 2528
สิ่งที่เหมือนกัน นอกจากสะท้อนภาพคนกรุง ต้องการจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของเมืองหลวงขนานใหญ่แล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่คนไทย โหยหาอยากได้นักการเมืองคุณภาพ ที่พวกเขาคาดหวังจะได้เห็น แต่หาได้ยากคล้ายคลึงกัน ที่มีอยู่ก็ “ไม่ปัง” ไม่โดนใจผู้คน
7 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความขลังและความเชื่อมั่นของประชาชนไม่เหมือนเดิมอีก
แกนนำจากพรรคร่วมรัฐบาลคนอื่น หรือแม้แต่ “คนใหม่” ที่จะเข้ามาเป็น “ตัวเลือก” รับไม้ต่อก็ยังหาไม่มี เช่นเดียวกับซีกฝ่ายค้าน ที่ส่วนใหญ่ยังเป็นคนหน้าเดิม ๆ แม้จะมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดดเด่นขึ้นมา ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ปี 2562
แต่เพราะจุดยืนเรื่องสถาบัน ทำให้ร้อนวูบวาบได้เพียงชั่วระยะสั้นๆ มิหนำซ้ำถูกตัดสิทธิ์การเมืองไป 10 ปี
จึงเป็นช่วงสุญญากาศทางการเมือง ที่ปลุกเร้าให้นายชัชชาติ ผงาดขึ้นมาได้ในช่วงจังหวะเวลาเช่นนี้
แม้จะโดน “จัดหนัก” ในช่วงท้าย ๆ การหาเสียงเลือกตั้ง 22 พฤษภาคม ทั้งปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารหรือไอโอ ผ่านโลกโซเชียล กล่าวหาสารพัดเรื่อง รวมทั้งยุทธการปลุกเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์หวังสกัดเต็มที่ แต่ก็ไม่สำเร็จ คะแนนเสียงที่ชาวกรุงเทพฯ เทให้มีมากกว่า 1.3 ล้านเสียง ชนะทุกคนที่เคยลงสมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ
การร้องเรียนกกต.เรื่องป้ายหาเสียงผ้าไวนิล นำไปรีไซเคิลเป็นกระเป๋า หรือผ้ากันเปื้อน เข้าข่ายเป็นการให้ สัญญาว่าจะให้ แลกกับการลงคะแนนเสียงสนับสนุนนายชัชชาติ จึงถูกวิพากษ์ว่าจะเป็น “ไม้เด็ด” สุดท้าย หวังตีแสกหน้าให้นายชัชชาติหน้าแตกกระเด็นกระดอนออกไปจากเส้นทาง การเป็นผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น
จึงโดนตอบโต้จากผู้คนภาคส่วนต่าง ๆ อดีตกกต.นายสมชัย ศรีสุทธิยากร และนายโคทม อารียา รวมถึงนักวิชาการแทบจะครบทุกปีกทุกค่าย พร้อมอกพร้อมใจปกป้องนายชัชชาติ โดยเฉพาะเป็นหนึ่งในวิธีการลดภาวะโลกร้อน ลดขยะ เป็นเรื่องความคิดสร้างสรรค์ แต่กลับมีบางคนยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบ และ กกต.ก็รับคำร้องไว้ด้วย แทนที่จะชื่นชมสนับสนุน
ขณะเดียวกัน ปรากฏมีโทรศัพท์จากคนกรุงเทพฯ และประชาชนทั่วไป โทรศัพท์ไปสอบถามที่สายด่วน 1444 เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องจะรับรองผลการเลือกตั้งให้นายชัชชาติ เป็นผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ และเหตุใดจึงใช้เวลาพิจารณานาน จะแจ้งผลอย่างเป็นทางการเมื่อใด
ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นกระแส “ชัชชาติฟีเวอร์” อย่างที่ใคร ๆ ก็คาดคิดไม่ถึง