วันนี้ (27 พ.ค.2565) ตัวแทนชาวบ้านใน ต.ลำพญากลาง อ.หมวกเหล็ก จ.สระบุรี เข้าแจ้งความกับตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และผู้นำชุมชนในพื้นที่กว่า 10 คน ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157
นางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์ รองประธานกลุ่มประชาสังคมปฏิรูป ทรัพยากรและทองคำ เปิดเผยว่า เมื่อปี 2555 มีเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้เข้ามาในพื้นที่และให้ชาวบ้านที่ถือครองที่ดิน สปก. กรอกแบบฟอร์มโดยอ้างว่าจะสำรวจและปรับปรุงพื้นที่ สปก.
จากนั้นผู้ที่ถือครองที่ดินกว่า 50 คน ไม่สามารถใช้โฉนดไปกู้เงินที่ธนาคารได้จึงไปตรวจสอบ และพบว่าโฉนดที่ดิน สปก. ถูกปรับเปลี่ยนเป็นที่ดินของกรมป่าไม้ ทำให้ไม่สามารถครอบครองที่ดินที่อยู่อาศัยและทำกินมากว่า 20-30 ปี ได้ และเกรงว่าจะถูกฟ้องร้องว่าบุกรุกพื้นที่ป่าและขับไล่ออกจากพื้นที่
หลังจากนั้นทางกลุ่มได้ไปตรวจสอบก็พบว่า มีบริษัทสำรวจแร่บริษัทหนึ่ง (บริษัท ฟ้าร้อง จำกัด) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท อัคราฯ ที่เคยถูกดำเนินคดีเรื่องการทำเหมืองทองคำมาก่อนหน้านี้ เข้ามาสำรวจแร่ในพื้นที่โดยมิชอบมาก่อนเมื่อปี 2563 โดยทำทีมาขุดเจาะน้ำบาดาล แต่เป็นการสำรวจหาแร่เพื่อที่จะเข้ามาทำธุรกิจดังกล่าวในอนาคต และจำเป็นต้องให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่ก่อน
นางวันเพ็ญ กล่าวว่า ต้องการให้ตำรวจ ปปป.ตรวจสอบว่า การออกเอกสารสิทธิให้สำรวจเหมืองแร่ว่าถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งการที่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้เข้ามาสำรวจและให้ชาวบ้านกรอกแบบฟอร์มเป็นการหลอกลวงชาวบ้านให้โอนสิทธิที่ดิน สปก.กลับไปเป็นพื้นที่ป่าไม้หรือไม่ และเบื้องต้นพบว่ามีชาวบ้านที่ถือครองที่ดินคนละ 20-30 ไร่ มากกว่า 50 คน เริ่มเข้าไปทำการเกษตรไม่ได้ รวมทั้งเหตุการณ์ในลักษณะนี้กำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ อีกด้วย
ขณะที่ ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ จะไปร้องเรียนกับ ผู้ว่าฯ สระบุรี ให้ตรวจสอบชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายว่ามีจำนวนเท่าใด