กรณีโซเชียลนักเรียนชายในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.เพชรบุรี ต่อสู้กับลิงป่าที่เข้ามาในโรงเรียนและกัดเด็กได้รับบาดเจ็บ วันนี้ (25 พ.ค.2565) นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เข้าเยี่ยมนักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนพรหมานุสรณ์ อ.เมือง จ.เพชรบุรี ที่ได้รับบาดเจ็บจากถูกลิงแสมกัด
พร้อมประสานผอ.โรงเรียนพรหมานุสรณ์ เพื่อขอให้นำนักเรียนคนดังกล่าวเข้ารับการตรวจค้นหาเชื้อโรคฝีดาษลิงด้วย เนื่องจากมีความเป็นห่วง และเพื่อความไม่ประมาท เบื้องต้นทราบว่านักเรียนคนดังกล่าว ยังฉีดวัคซีนกันบาดทะยักเรียบร้อยแล้ว
นายยุทธพล กล่าวว่า ในวันที่ 26 พ.ค.นี้ ทีมสัตว์แพทย์นำโดยนายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ หมอล็อต หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า จะนำทีมสัตว์แพทย์ของกรมอุทยานฯ และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ประชุมหารือร่วมกับปศุสัตว์จังหวัด เพื่อหาแนวทางประชาสัมพันธ์โรคฝีดาษลิงให้กับประชาชนชาว จ.เพชรบุรี
ใช้ลิงกังไล่ "ลิงแสม"ทำความเข้าใจอย่าตื่นฝีดาษลิง
ขออย่าตื่นตระหนก เพราะโรคฝีดาษลิง ไม่ได้ติดกันง่ายๆ เหมือนโควิด-19 อีกทั้งจะวางแนวทางประ ชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ ให้ความรู้กับนักเรียนครู อาจารย์ของโรงเรียนในพื้นที่ ติดกับเขาวัง ให้มีความเข้าใจและป้องกันตัว และอยู่ร่วมกับลิงอย่างปลอดภัย หากลิงกลับลงมาอีกหรือเผชิญกับลิง
นอกจากนี้ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า และสัตวแพทย์จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จะเข้าไปในพื้นที่โรงเรียนพรหมานุสรณ์ เพื่อผลักดันให้ลิงแสมกลับขึ้นเขาวัง โดยไม่มีการทำร้ายลิง แต่จะใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นไปใช้ คือการนำลิงกังมาไล่ลิงแสม มาจำกัดและควบคุมพื้นที่ลิงแสม บริเวณโดยรอบโรงเรียน ไม่ให้เข้ามาบุกรุกแหล่งอาหาร หรือทำลายทรัพย์สิน เป็นการป้องกันไม่ให้ลิงมาทำร้ายเด็กนักเรียน ครู อาจารย์ในบริเวณโรงเรียนได้
ออก 7 มาตรการคุมเข้มฝีดาษลิง
นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ขณะนี้มีการวาง แนวทางการปฏิบัติงานควบคุมและเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิง 7 ข้อ แจ้งด่านตรวจสัตว์ป่าทั่วประเทศ เพิ่มความเข้มงวดการตรวจตราการนำเข้า และนำผ่านสัตว์ป่าต่างประเทศ เฝ้าระวังการลักลอบการนำเข้าสัตว์ป่ากลุ่มลิง และกลุ่มสัตว์ฟันแทะที่เข้ามาในราชอาณาจักร
แจ้งให้ผู้ประกอบการที่นำเข้าสัตว์ป่ากลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นพาหะของโรคฝีดาษลิง ขอให้ตรวจโรคฝีดาษลิงเพิ่มเติมจากข้อบังคับการตรวจโรคของกรมปศุสัตว์ ประสานด่านกักกันสัตว์ของกรมปศุสัตว์ สนามบินสุวรรณภูมิ ขอให้ตรวจสอบใบรับรองสุขภาพสัตว์ ของผู้นำเข้าสัตว์ป่ากลุ่มเสี่ยงได้ตรวจโรคฝีดาษลิงหรือไม่ ก่อนอนุญาตให้นำเข้ามาในไทย
ขอความร่วมมือผู้นำเข้าสัตว์ป่าต่างประเทศ หากเป็นไปได้ขอให้ชะลอการยื่นคำขอ หรือการนำเข้าสัตว์ป่ากลุ่มเสี่ยงที่มาจากประเทศมีการระบาดของโรคฝีดาษลิงเข้ามาในไทย
ทั้งนี้ ยังให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าที่นำเข้า-นำผ่านสัตว์ป่าต่างประเทศเพิ่มความเข้มงวดและความปลอดภัยการปฏิบัติงานตามมาตรการสาธารณสุข เพราะมีโอกาสสัมผัสสัตว์ป่าที่เป็นพาหะของโรคฝีดาษลิง สำรวจและเฝ้าระวังเชิงรุก ติดตามตรวจสอบสุขภาพของสัตว์ป่ากลุ่มลิงและกลุ่มสัตว์ฟันแทะที่นำเข้ามาในไทย เพื่อให้มั่นใจว่าสัตว์ป่าดังกล่าวไม่เป็นพาหะของโรคฝีดาษลิง
พร้อมสอบถามสุขภาพของผู้เลี้ยงมีอาการคล้ายคลึงกับผู้ติดเชื้อจากโรคฝีดาษลิงหรือไม่ และสุดท้าย ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทาง E-Service ให้ผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าต่างประเทศ เฝ้าระวังโรคฝีดาษลิง หากมีข้อสงสัย หรือเหตุฉุกเฉินขอให้แจ้งกรมอุทยานฯ สายด่วน 1362
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมอุทยานฯ ยกเคสนักเรียนสู้ลิงป่าบุกร.ร.เข้าข่ายป้องกันตัว