อีกเพียงไม่กี่วัน ชาวกรุงเทพฯจะได้ออกไปใช้สิทธิ์ชี้ขาด จะให้ใครเป็นผู้ว่า กทม.
หลังจากช่วงที่ผ่านมา การลงพื้นที่หาเสียงเป็นไปอย่างเข้มข้น บางคนถือคติยิ่งลงพบปะชาว กทม.มากเท่าไหร่ ยิ่งได้เปรียบ
แต่กระนั้น 'ตัวเก็ง' ทั้งหลาย ก็เดินสายออกรายการของสื่ออย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน เพราะในยุคสมัยการสื่อสารก้าวล้ำไปไกล ก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงออฟฟิศหรือสถานี แต่สามารถใช้โทรศัพท์ร่วมรายการได้ทั้งเสียงและภาพ
ไม่เพียงแค่นั้น ยังใช้สื่อยุคสมัยใหม่ เช่น ไลฟ์สดหรือผ่านแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ สื่อสารหาเสียงเป็นระยะ ๆ
ด้วยแนวคิดของผู้สมัครแต่ละคน วิธีการเหล่านี้ จะช่วยทุ่นเวลาเดินทาง และเป็นประโยชน์ทั้งกับตัวเองและประชาชน สามารถติดตามได้ทุกช่องทาง
ต่างจากยุคสมัยก่อนที่ยังไม่มีสื่อออนไลน์ ต้องใช้วิธีเดินหาเสียงหรือเปิดปราศรัยเป็นหลัก ส่วนเวทีดีเบตก็พอมี แต่ไม่มากเท่าปัจจุบัน
แต่กระนั้น บางคนที่ปฏิเสธเวทีประชันวิสัยทัศน์ แต่ก็ชนะแบบถล่มทลาย อย่างนายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯกทม. ที่ได้คะแนนทะลุ 1 ล้านเสียงเป็นคนแรก
จากนี้ไปในช่วงทางตรงสุดท้าย การชี้ชะตาสำคัญจะขึ้นอยู่กับช่วงเวลานี้ ใครมี 'ของ'อะไรดี ๆ ที่ 'ปัง' โดนใจคนกรุงเทพฯ มากที่สุด ก็ต้องปล่อยเต็มที่
ส่วนใครมีคะแนนนำ ก็ต้องระวังห้ามสะดุดขาตัวเองหกล้มหัวทิ่ม กับอีกประการ คือต้องระวัง 'เฟกนิวส์' ทิ่มแทงใส่ ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของ 'ไอโอ' หรือปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสาร ที่คาดหมายกันตั้งแต่ต้น ว่าจะมีออกมาในช่วงทางตรงสุดท้าย โดยเฉพาะ 2-3 วันก่อนหย่อนบัตร
เพราะหากเจอยุทธวิธีนี้ อาจตอบโต้หรือชี้แจงข้อเท็จจริงไม่ทัน ยิ่งในโลกออนไลน์ยิ่งน่าวิตก การปูดข่าวเพื่อหวังผลในยุคสื่อสารไร้พรมแดน สามารถทำโดยอวตารหรือใครได้ทุกแห่งทุกที่ในโลก
ขณะเดียวกัน ในช่วง 100 เมตรสุดท้ายนี้ ห้ามมีการเปิดผลโพลใด ๆ ไม่ว่าจะโพลสำนักไหน หรือแม้แต่โพลส่วนตัวหรือโพลของพรรค ป้องกันการชี้นำ และการได้เปรียบเสียเปรียบ
ทั้งนี้ คนกรุงเทพฯ ที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงครั้งนี้ มีประมาณ 4.7 ล้านคน เฉพาะนิวโหวตเตอร์ หรือคนรุ่นใหม่ ที่เพิ่งมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งครั้งแรก จะมีประมาณ 6.1 หมื่นคน
แม้อาจจะไม่มาก แต่ถูกคาดหมายว่า จะมีผลทำให้คะแนนผู้สมัครผู้ว่าฯ สวิงกลับได้ โดยเฉพาะเมื่อรวมกับกลุ่มที่ได้โหวตเลือกผู้ว่าฯ กทม.ครั้งแรก เมื่อปี 56 และกลุ่มที่เป็นเจน Y ซึ่งมักจะมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกัน
ในจำนวน 4.7 ล้านคน มีการประเมินวงในว่า จะเป็นเสียงของมวลชน 'เสื้อเหลือง' ประมาณ 1.4-1.6 ล้านคน มวลชน 'เสื้อแดง' 1.5-1.7 ล้านคน ที่เหลือจะเป็นพลังเงียบ ซึ่งจะเป็นกลุ่มคนที่มีโอกาสจะเป็นตัว 'สวิง' อย่างแท้จริง
รักใคร ลุ้นใคร เชียร์กันได้ตามสบาย แต่อย่าทำผิดกฎหมายหรือข้อห้าม ว่าด้วยการเลือกตั้ง ก็พอ