วันนี้ (28 มี.ค.2565) สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ โพสต์ประกาศพร้อมเปลี่ยนโควิด-19 เป็นโรคระบาดประจำถิ่น จังหวัดแรก พร้อมระบุเป้าหมายชัด โดยระบุว่า "สุรินทร์ พร้อมเปลี่ยนโควิด-19 ให้เป็นโรคระบาดประจำถิ่น จังหวัดแรกของประเทศ" เริ่ม 1 เม.ย.2565
- ทุกหมู่บ้าน ยังรักษามาตรการหมู่บ้านสีฟ้า
- อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยติดเชื้อไม่เกินร้อยละ 0.5
- อัตราการครองเตียงไม่เกินร้อยละ 3 ของผู้ป่วยทั้งหมด
- ชาวสุรินทร์ฉีดวัคซีนเข็ม 1 และเข็ม 2 ไม่น้อยกว่าร้อยละ70
- ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย และดำเนินการตามมาตรการ DMHTT 100%
ขณะที่ ศูนย์ข้อมูล COVID-19 จังหวัดสุรินทร์ รายงานสถานการณ์ COVID-19 จ.สุรินทร์ (ระลอกใหม่ ม.ค.65) ข้อมูลระหว่างวันที่ 24 ธ.ค.2564 ถึง 27 มี.ค.65 เวลา 18.00 น. ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสม 16,699 คน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 345 คน อยู่ระหว่างรักษา 2,904 คน (โรงพยาบาลสนาม/ศูนย์พักคอย 1,275 คน) หายป่วยสะสม 13,764 คน (รายใหม่ 299 คน) เสียชีวิตสะสม 31 คน (รายใหม่ 2 คน)
"อนุทิน" ชี้จังหวัดนำร่องขึ้นกับความพร้อม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณี จ.สุรินทร์ ประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นวันที่ 1 เม.ย.นี้ว่า เป็นการบริหารจัดการภายในแต่ละจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด นพ.สสจ.เป็นเลขานุการ
หากผู้ว่าฯ สุรินทร์ มีความตั้งใจจริง ต้องขอชมเชย และส่งกำลังใจให้ หากมีจังหวัดนำร่องไปเรื่อยๆ ทุกจังหวัด ก็จะกระตือรือร้น เพื่ออยากให้เกิดสภาวะเป็นปกติเร็วที่สุด สธ.พร้อมให้การสนับสนุนทุกจังหวัด
ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข วางไทม์ไลน์การปลดให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นในเดือนก.ค.นี้ แต่จะมีการพิจารณาช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วยว่าจะมีตัวเลขการติดเชื้อสูงขึ้นหรือไม่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"อนุทิน" เบรกสงกรานต์ข้าวสารงดสาดน้ำ ห่วงติดเชื้อหลักแสนคุมยาก
"ไข้เลือดออก-โควิด" อาการต่างกันอย่างไร ?