สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นหลายอย่าง ตั้งแต่การประกาศปรับเป้าหมายปฏิบัติการของรัสเซียทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า นี่เป็นการลดระดับความคาดหวังในสงครามนี้ลงหรือไม่ หลังจากเพลี่ยงพล้ำและผิดคาดไปหมด ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ออกมาประกาศยืนยันการโจมตีคลังน้ำมันในเมืองลวิฟ
โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียใช้อาวุธพิสัยไกลความแม่นยำสูงที่ยิงจากบนอากาศทำลายคลังเชื้อเพลิงขนาดใหญ่ใกล้กับเมืองลวิฟ ซึ่งจัดสรรเชื้อเพลิงให้แก่กองทัพยูเครนที่ประจำการอยู่ทางภาคตะวันตกรวมถึงบริเวณใกล้กรุงเคียฟ เป็นการยืนยันเหตุโจมตีเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับอ้างความชอบธรรม โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 5 คน
ขณะที่ภาพนี้เผยแพร่โดยหน่วยงานรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินของทางการยูเครน เผยให้เห็นภาพไฟโหมลุกไหม้รุนแรงและเจ้าหน้าที่จำนวนมากระดมกำลังเข้าดับเพลิง โดยรัสเซียยิงถล่มถังเก็บน้ำมัน 2 ถัง ทิ้งระยะเวลาห่างกัน 2 ชม.
ความรุนแรงของเพลิงไหม้ทำให้เจ้าหน้าที่บางส่วนต้องสวมชุดป้องกันพิเศษ และยังส่งกลุ่มควันขนาดใหญ่ลอยปกคลุมไปถึงใจกลางเมืองลวิฟ หลังจากเมืองนี้เป็นที่พักพิงของคนกว่า 200,000 คน ที่อพยพมาจากเมืองอื่น ๆ ในยูเครนซึ่งโดนถล่มมานานนับเดือน การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลง
ขณะโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ให้สัมภาษณ์กับสื่ออิสระจากรัสเซีย ซึ่งเซเลนสกีระบุ ระหว่างการให้สัมภาษณ์นานถึง 90 นาทีว่า ยูเครนเตรียมการจะหารือเกี่ยวกับการยอมรับสถานะเป็นกลาง ในการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย แต่จะต้องมีประเทศที่สามเข้ามาช่วยรับรองความปลอดภัยให้ยูเครนด้วย และจะต้องทำประชามติในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
ส่วนประเด็นอื่น ๆ เช่น การปลดอาวุธยูเครน ไม่ให้มีกองทัพอีกต่อไป เป็นข้อเรียกร้องของรัสเซียที่ยูเครนจะไม่หารือด้วย ส่วนการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครนแบบที่ผู้แทนพบปะหารือกันซึ่งหน้ารอบต่อไป จะเกิดขึ้นตั้งแต่วันนี้ตามเวลาท้องถิ่นในตุรกี
ด้านผู้นำรัสเซียกล่าวขอบคุณทหารกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิที่เข้าปฏิบัติการพิเศษในยูเครน เนื่องในโอกาสวันกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ ที่เริ่มเฉลิมฉลองกันเมื่อ 6 ปีก่อน
ที่มา : AP