วันนี้ (25 มี.ค.2565) ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยผ่านเพจ Center for Medical Genomics ระบุว่า มีรายงานจาก"เบลเยียม" แจ้งว่ามีเกิดการระบาดของโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1, BA.1.1, และ BA.2 พร้อมกันมาตั้งแต่เดือน ธ.ค.2564 ซึ่งอาจจะเป็นเหตุให้ตรวจพบสายพันธุ์ลูกผสมที่แพร่กระจายอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ ได้ดาวน์โหลดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของสายพันธุ์ลูกผสมจากเบลเยียมมาจากฐานข้อมูล COVID-19 โลก “GISAID” จำนวน 22 ตัวอย่างมาวิเคราะห์ พบว่า รหัสพันธุกรรมคล้ายกับโอมิครอน ไม่สามารถจำแนกหรือระบุสายพันธุ์ได้ด้วย “แอปพลิเคชัน Pangolin (Pango v.3.1.20 2022- 02-28)”
อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์เชิงลึกด้วย “แอปพลิเคชัน Nextclade” พบว่าไวรัสในคลัสเตอร์นี้ จีโนมส่วนใหญ่มาจากโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย “BA.2” แต่มีส่วนน้อยได้รับมาจากยีน “ORF1a (2832-10029)” และ “ORF1b(160464-18163)” ของโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1.1 เข้ามาร่วมผสมเกิดเป็นสายพันธุ์ลูกผสม BA.2/BA.1.1 recombined linage ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์แบบก้าวกระโดด
เดิม ฺBA.2 มีการกลายพันธุ์ต่างไปจาก BA.1 อยู่ 10 ตำแหน่ง และ BA.1 มีการกลายพันธุ์ต่างไปจาก BA.2 อยู่ 13 ตำแหน่ง เมื่อมาผสมรวมกันส่งผลให้เกิดการกลายพันธุ์ต่างไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่นถึง 100 ตำแหน่ง และต่างจาก BA.2 ประมาณ 30 ตำแหน่งซึ่งอาจจะเป็นสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์ไปมากที่สุดในขณะนี้
อาศัยการคำนวณจากรหัสพันธุกรรมและช่วงเวลาที่ตรวจพบ พบว่าสายพันธุ์ลูกผสม BA.2/BA.1.1 recombined linage นี้ มี “growth advantage” หรือความสามารถในการแพร่ระบาดเหนือกว่า BA.2 ประมาณ 0.47 เท่า (47%) ซึ่งไม่มากนัก
ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลทางระบาดวิทยาว่าสายพันธุ์ลูกผสม BA.2/BA.1.1 recombined linage แพร่ติดต่อได้รวดเร็วกว่า BA.2 กี่ % ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกว่าผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ลูกผสม BA.2/BA.1.1 recombined linage มีอาการรุนแรงมากกว่าหรือน้อยกว่าสายพันธุ์โอมิครอนสายพันธุ์ BA.1, BA.1.1, BA.2
การหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันหรือการด้อยประสิทธิภาพวัคซีนไม่น่าจะแตกต่างจาก BA.2 เพราะไม่พบการกลายพันธุ์จำนวนมากบนจีโนมในส่วนของ “ยีน S” ที่ควบคุมการสร้างส่วนหนาม
จากการสแกนหาในฐานข้อมูล COVID-19 โลก "GISAID" ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยจัดเก็บรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของไวรัสโคโรนา 2019 ตั้งแต่เริ่มการระบาดจนถึงปัจจุบันจำนวนกว่า 9.63 ล้านตัวอย่าง ยังไม่พบ BA.2/BA.1.1 recombined linage ในประเทศไทย
ในอนาคตหากมีความจำเป็นต้องตรวจคัดกรองลูกผสม “BA.2 + BA.1.1” เป็นจำนวนมาก ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯสามารถพัฒนาชุดตรวจ “Mass Array Genotyping” มาตรวจสอบรหัสพันธุกรรมสายพันธุ์ลูกผสมได้อย่างรวดเร็วภายในเวลา 24-48 ชั่วโมงด้วยเวลาที่สั้นกว่าและค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม โดยใช้เวลาในการพัฒนาการตรวจไม่เกิน 2 สัปดาห์