ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ผลวิจัยพบ "โอมิครอน" อยู่บน "สแตนเลส-พลาสติก-แก้ว" นาน 7 วัน

สังคม
12 มี.ค. 65
15:07
2,020
Logo Thai PBS
ผลวิจัยพบ "โอมิครอน" อยู่บน "สแตนเลส-พลาสติก-แก้ว" นาน 7 วัน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
นักไวรัสวิทยา เผย ทีมวิจัยฮ่องกง พบ "โอมิครอน" มีแนวโน้มอยู่บนพื้นผิว "สแตนเลส-พลาสติก-แก้ว" ได้นานกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม คงสภาพได้นานถึง 7 วัน ย้ำใส่หน้ากากอมามัยช่วยลดปริมาณการปลดปล่อยได้

วันนี้ (12 มี.ค.2565) ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ไบโอเทค สวทช. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ระบุ 

ผลการทดลองชิ้นนี้จากทีมวิจัยในฮ่องกงน่าสนใจ เปรียบเทียบความเสถียรของไวรัส (ความสามารถที่ไวรัสจะติดเชื้อต่อได้) บนพื้นผิวชนิดต่าง ๆ ระหว่างโอมิครอน กับ สายพันธุ์ดั้งเดิม

ผลการทดลองชิ้นนี้บอกว่า ไวรัสทั้ง 2 สายพันธุ์จะสูญเสียสภาพการติดเชื้อไประดับนึง (ประมาณ 10 เท่า) เกือบทันทีที่อยู่นอกร่างกายและไปติดอยู่บนพื้นผิวต่าง ๆ แต่หลังจากนั้นจะเห็นความแตกต่างระหว่างสายพันธุ์โดยโอมิครอนมีแนวโน้มจะอยู่บนพื้นผิวอย่างน้อย 3 ชนิด คือ สแตนเลส พลาสติก และ แก้ว ที่ยาวนานกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม 

ดูเหมือนว่าโอมิครอนจะคงสภาพบนพื้นผิวทั้ง 3 ได้นานถึง 7 วัน ในสภาวะความชื้น และ อุณหภูมิที่ทำการทดลองนี้ แต่บนพื้นผิวกระดาษไวรัสเสียสภาพไวกว่า และ อยู่ได้ไม่นานพอ ๆ กัน

ดร.อนันต์ กล่าวอีกว่า การทดลองนี้ไม่ได้เปรียบเทียบไวรัสในสภาวะอยู่ในอากาศ หรือ aerosol ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่โอมิครอนอาจจะอยู่ในอากาศได้นานกว่าปกติ ซึ่งอาจอธิบายความสามารถในการแพร่กระจายของไวรัสได้ไว และ รวดเร็ว

ข้อสังเกตคือ การศึกษานี้ใช้ปริมาณของละอองฝอยที่มีขนาด 5 ไมโครลิตร ซึ่งใหญ่กว่าละอองฝอยในธรรมชาติมาก ปริมาณไวรัสที่ใช้ก็ค่อนข้างสูง การสูญเสียสภาพของไวรัสประมาณ 10 เท่า

หลังเกาะบนพื้นผิวอาจทำให้ละอองฝอยที่มีขนาดเล็กในสภาวะจริงอาจทำให้ไวรัสที่ติดออกมาลดลงไปจนไม่ไปต่อก็ได้ขึ้นอยู่กับสภาวะของละอองฝอยที่ปล่อยออกมา และปริมาณไวรัสที่ออกมาจากผู้ติดเชื้อมักไม่สูงเหมือนที่ทำการทดลอง

การใส่หน้ากากอมามัยก็จะช่วยลดปริมาณการปลดปล่อยลงไปได้อีก ปัจจัยทั้งหมดนี้อาจจำเป็นต้องพิจารณาเพื่อประเมินความเสี่ยง แต่การล้างมือบ่อย ๆ คงจำเป็นอยู่ดี

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง