วันนี้ (24 ก.พ.2565) พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึง การปรับมาตรการผู้ป่วยวิกฤติฉุกเฉิน (UCEP) ว่า คณะรัฐมนตรีให้ไปดูในรายละเอียด UCEP Plus โดยต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบในรายละเอียด ขั้นตอนให้ชัดเจนและเข้าใจง่าย ยืนยันว่าประชาชนไม่ได้เสียสิทธิ แต่เป็นการบูรณาการการทำงานเพื่ออนาคต ขอให้รอฟังกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงในรายละเอียด
ส่วนสาเหตุมาจากการใช้งบประมาณที่มากเกินไปหรือไม่นั้น เลขาธิการ สมช.ระบุว่า งบประมาณจะพิจารณาในภาพรวม แต่หากมีความจำเป็นก็ต้องดำเนินการ ผู้เกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาในภาพรวมให้เกิดความเรียบร้อย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้ทบทวนขั้นตอนให้รอบคอบ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจ
ยันไม่ล็อกดาวน์-แนะประชาชนปรับใช้ชีวิต
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดรวมกับผลตรวจ ATK รวม 50,000 คนมีการรองรับอย่างไร พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ศบค.มีมาตรการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง การล็อกดาวน์คงไม่กลับไปเหมือนในสมัยที่ระบาดแรกๆ เพราะคงทำได้ยาก ยกเว้นจำเป็นอย่างที่สุด แต่คาดว่าจะไม่เกิดขึ้น จึงต้องขอให้ประชาชนปรับตัวในการดำเนินชีวิตเข้มมาตรการสาธารณสุข
นายกรัฐมนตรีสั่งการให้เตรียมแผนรองรับทั้งระบบ ยกระดับการกักตัวที่บ้าน การกักตัวในชุมชน โรงพยาบาลสนาม ส่วนโรงพยาบาลหลักจะรับผู้ป่วยหนักเท่านั้น โดยไม่กระทบกับผู้ป่วยโรคอื่น ป้องกันการติดเชื้อในบุคลากรทางการแพทย์ ทุกจังหวัดก็จะมีสายด่วนเสริมด้วย นอกจากสายด่วนในกทม.
ยันไม่ห้ามเดินทางสงกรานต์-งดปาร์ตี้
เลขาธิการ สมช.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้คาดหวังว่า ในเดือนมี.ค.นี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลง และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ คาดว่าประชาชนจะได้ใช้ชีวิตใกล้เคียงสงกรานต์ปกติ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ชีวิตปกติ เหมือนช่วงก่อนมีโควิด
สัปดาห์หน้าจะมีการประชุม เพื่อหารือเตรียมมาตรการในช่วงสงกรานต์ แต่จะไม่มีการห้ามการเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อกลับภูมิลำเนา แต่ขอให้งดเรื่องการสังสรรค์ และการเลี้ยงฉลอง รวมถึงกิจกรรมเสี่ยง
มีการเตรียมแผนรองรับหากมีผู้ติดเชื้อรายวันถึงระดับ 100,000 คน แต่มีการประเมินเป็นรายวันอยู่แล้ว จะเพิ่มมาตรการรองรับ ไม่ใช่เฉพาะการสร้างโรงพยาบาลสนามรองรับคนติดเชื้อจำนวนมาก แต่จะต้องมีมาตรการมากกว่านี้
พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า กรณีนักเรียนที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าสอบจะต้องไปนั่งสอบรวมกับคนอื่น และผู้คุมสอบจะต้องใส่ชุด PPE หรือไม่นั้น เรื่องดังกล่าวต้องจัดโซนนิ่งพื้นที่ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของโรงเรียนและสถานศึกษาด้วยที่จะสามารถจัดพื้นที่โซนนิ่งให้กับกลุ่มดังกล่าว
ส่วนจังหวัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว เช่น จ.ชลบุรี ยังมีการลักลอบเปิดสถานบันเทิงจะต้องมีการเพิ่มมาตรการหรือไม่นั้น นายกฯสั่งการให้มีการรับฟังข้อมูลและรับเรื่องร้องเรียน หากพบก็ให้ดำเนินการแก้ไข รวมถึงหากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไปนั่งรอเข้ารับการรักษาอยู่ข้างถนนให้รีบรับเรื่องและไปดำเนินการช่วยเหลือ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผอ.รพ.จะนะ ระบุโอมิครอนระบาดหนัก-ยอดติดเชื้ออาจสูงกว่ารายงาน 3-4 เท่า