ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

กรมการแพทย์ชี้แจงปม หญิงตั้งครรภ์ติดโควิด รพ.ไม่รับรักษา

สังคม
7 ก.พ. 65
16:22
5,437
Logo Thai PBS
กรมการแพทย์ชี้แจงปม หญิงตั้งครรภ์ติดโควิด รพ.ไม่รับรักษา
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมการแพทย์ชี้แจงกรณีผู้ป่วยตั้งครรภ์ 9 เดือนติดเชื้อ COVID-19 ไม่มีโรงพยาบาลรับรักษา พบโรงพยาบาลที่ฝากครรภ์ไม่รับทำคลอดให้ผู้ป่วย COVID-19 จึงต้องติดต่อโรงพยาบาลอีกแห่งตามสิทธิประกันสังคม

จากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ว่าผู้ป่วยตั้งครรภ์ติดเชื้อ COVID-19 ใกล้คลอด แต่ไม่มีโรงพยาบาลรับรักษา

วันนี้ (7 ก.พ.2565) กรมการแพทย์ ชี้แจงว่า ผู้ป่วยคนนี้เป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 32 ปี อายุครรภ์ 9 เดือนและมีประวัติเคยผ่าคลอดมาก่อน ได้ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ต่อมาพบบุคคลในครอบครัวติดเชื้อ COVID-19 จึงตรวจ ATK ด้วยตนเองให้ผลบวกและมีอาการเจ็บครรภ์จึงได้ติดต่อไปยังโรงพยาบาลเอกชนที่ตนฝากครรภ์เพื่อเข้ารับการรักษา

ทว่าโรงพยาบาลเอกชนรายดังกล่าวปฏิเสธการทำคลอดผู้ป่วย COVID-19 จึงทำให้ผู้ป่วยซึ่งมีสิทธิประกันสังคมโรงพยาบาลเลิดสิน ได้ติดต่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเลิดสิน ในวันที่ 6 ก.พ.2565  เบื้องต้น แพทย์ได้ทำการตรวจ RT-PCR เพื่อยืนยันก่อนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและประเมินอาการผู้ป่วย ซึ่งพบว่าขณะนั้นผู้ป่วยไม่พบอาการผิดปกติอื่น โรงพยาบาลได้แนะนำให้ผู้ป่วยสังเกตอาการที่บ้านเพื่อรอผลตรวจ RT-PCR ก่อนนำเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป

ต่อมาในช่วงค่ำของวันเดียวกันผู้ป่วยเริ่มมีอาการเจ็บครรภ์และเริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียนจึงได้ติดต่อไปยังศูนย์เอราวัณ ทางศูนย์เอราวัณจึงนำส่งโรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลรับผู้ป่วยตอนเวลาเที่ยงคืนประเมินอาการพบว่า ผู้ป่วยอาการคงที่ไม่มีมดลูกหดตัว ไม่มีน้ำเดิน ระดับออกซิเจนในเลือดปกติ ไม่พบอาการผิดปกติอื่น จึงรับไว้สังเกตอาการ เพื่อวางแผนการรักษาสำหรับการผ่าตัดคลอดต่อไป

ทั้งนี้ ได้มีการวางระบบการดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ COVID-19 ในเขตกรุงเทพมหานคร ตามที่มีการหารือร่วมกันในที่ประชุมเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลในเขตกรุงเทพมหานคร

สำหรับผู้ป่วยรายนี้ตามระบบแล้วควรจะได้รับการดูแลเบื้องต้นจากโรงพยาบาลที่รับฝากครรภ์ก่อน หากเกินศักยภาพของโรงพยาบาลจึงค่อยส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่รับผิดชอบดูแลตามพื้นที่ที่แบ่งไว้ ทั้งนี้ กรมการแพทย์ขอความร่วมมือไปยังโรงพยาบาลเอกชน ขอให้ช่วยดำเนินการตามแนวทางระบบที่ได้วางไว้ 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง