วันนี้ (25 ม.ค.2565) พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยรองโฆษก ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ว่า ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 6,718 คน ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.2565 รวม 167,922 คน หายป่วยเพิ่ม 7,659 คน หายป่วยสะสม 119,274 คน กำลังรักษา 81,532 คน เสียชีวิต 12 คน
สำหรับผู้เสียชีวิต 12 คน เป็นชาย 9 คน และหญิง 3 คน แยกเป็นคนไทย 11 คน และชาวอังกฤษ 1 คน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 7 คน หรือคิดเป็น 58% และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี แต่มีโรคประจำตัว 3 คน หรือคิดเป็น 25% รวมแล้วทั้ง 2 กรณีดังกล่าวจะคิดเป็น 83% นอกจากนี้ ไม่มีโรคประจำตัว 2 คน มาจากภาคใต้มากที่สุด 5 คน ภาคตะวันออก 4 คน กรุงเทพฯ 2 คน อุบลราชธานี 1 คน
ส่วนสถานการณ์ผู้ติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน หรือคลัสเตอร์ พบว่าคลัสเตอร์ที่พบมากที่สุดเป็น โรงงาน และสถานประกอบการ โดยพบที่สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี และกาญจนบุรี ซึ่งได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ ที่อยู่ในโรงงานและสถานประกอบการ เคร่งครัดมาตรการป้องกันโควิด-19
รองลงมาเป็นคลัสเตอร์พิธีกรรมทางศาสนา คือ งานศพ พบใน 2 จังหวัด คืออุดรธานี และขอนแก่น งานแต่งงาน พบในน่าน และศรีสะเกษ ต่อมาเป็นคลัสเตอร์ตลาด พบที่ขอนแก่น เชียงใหม่ และมุกดาหาร ต่อมาเป็นคลัสเตอร์ร้านอาหารและสถานบันเทิง พบในจันทบุรี ร้อยเอ็ด และอุดรธานี
นอกจากนี้ ยังมีคลัสเตอร์ทหาร ตำรวจ ซึ่งพบในลพบุรี และมุกดาหาร และสุดท้าย เป็นคลัสเตอร์บุคลากรทางการแพทย์ พบในกรุงเทพฯ นนทบุรี อุบลราชธานี ชลบุรี และสมุทรปราการ จากการสอบสวนคลัสเตอร์บุคลากรทางการแพทย์ พบว่าติดเชื้อมาจากครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนสนิท ซึ่งจะต้องเข้มมาตรการส่วนบุคคล และปฏิบัติมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในกรุงเทพฯ พบว่ามีผู้ติดเชื้ออยู่อันดับ 1 มาเป็นเวลา 10 วันแล้ว ซึ่งในช่วง 6 วัน มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเกิน 1,000 คนขึ้นไป ซึ่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา พบคลัสเตอร์ค่ายมวยในเขตบางกอกน้อย ที่มีผู้ติดเชื้อ 11 คน จากการสอบสวนโรค พบว่ามาจากการรับประทานอาหารร่วมกัน และดื่มน้ำแก้วเดียวกัน ทำกิจกรรมร่วมกันเป็นเวลานาน ไม่สวมหน้ากากอนามัย นอกจากนี้ ไม่มีจุดที่ตั้งเจลแอลกอฮอล์ และไม่มีการคัดกรองผู้ที่มาฝึกซ้อมมวย และใช้อุปกรณ์ซ้อมมวยร่วมกัน เช่น นวม และเชือกกระโดด
ส่วนในช่วงเทศกาลตรุษจีน ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. - 3 ก.พ.นี้ จากการวิเคราะห์สถานการณ์ พบว่าอาจจะมีความเสี่ยงมาจากรวมตัวของญาติพี่น้อง เพื่อการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ พบปะสังสรรค์ การเดินทางไปตลาด ร้านอาหาร และศาลเจ้า ซึ่งเป็นสถานที่เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากเป็นสถานที่ที่มีความแออัด โดยจะต้องมีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ซึ่งทาง ศบค.ไม่อยากให้เกิดคลัสเตอร์จากเทศกาลตรุษจีน จึงขอให้ประชาชนใช้ชีวิตภายใต้การรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
เปิดเส้นทาง "ดูคาติ" คันที่ชน "หมอกระต่าย" ขายเปลี่ยนมือ 5 ครั้ง
"ประวิตร" ไม่ทบทวนมติขับ 21 ส.ส.พ้นสมาชิก "พปชร."
รพ.นพรัตน์ เปิดจองฉีดวัคซีนเข็ม 3 เข็ม 4 ผ่านค่ายมือถือ 27 ม.ค.นี้