วันนี้ (29 ธ.ค.2564) จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้คนไทยมีการปรับตัวรับเทคโนโลยีมากขึ้น จากการใช้ชีวิตแบบวิถีชีวิตใหม่ หรือนิวนอร์มอล
ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากาก ใช้เจลแอลกอฮอล์ และเว้นระยะห่างทางสังคม และพฤติกรรมดังกล่าว ยังกลายเป็นแรงสนับสนุนธุรกิจการแพทย์และความงาม ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจแพลตฟอร์มไปแบบไม่ได้ตั้งใจ
โดยเฉพาะธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ที่ว่ากันว่าหากไม่มีโรคโควิด-19 อาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 5 ปีในการเข้าสู่ขยายวงกว้าง แต่พอโควิด-19 เข้ามา คนออกไปมาไหนลำบากมากขึ้น เพราะกังวลว่าจะติดเชื้อโควิด-19
ประกอบกับมาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐ และโควิด-19 ที่แพร่ระบาดระลอกแล้วระลอกเล่า จนตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นไปสูงสุดเป็นหลักหมื่นคน ทำให้คนต้องมาทำงานที่บ้านมากขึ้น และจำเป็นต้องสั่งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์แทน
ข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งได้ประเมินธุรกิจดาวเด่นในปี 2565 ซึ่งอันดับ 1 ยังคงเป็นธุรกิจการแพทย์และความงาม และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เหมือนในปี 2564
ทั้งนี้ ธุรกิจการแพทย์และความงาม ได้รับปัจจัยสนับสนุนอย่างกระแสการให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพและดูแลความงามยังคงมีอย่างต่อเนื่อง คุณภาพการรักษาของประเทศไทยมีราคาไม่แพง และได้รับความเชื่อถือจากนานาชาติ
ขณะที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ได้รับปัจจัยสนับสนุนอย่างพฤิตกรรมที่เปลี่ยนไปของประชาชน และสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนหันมาซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น และผู้ประกอบการหันมาทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังได้รับอานิสงส์จากนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น มาตรการคนละครึ่ง เป็นต้น ประชาชนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่าย ระบบขนส่งที่ทันสมัยและรวดเร็ว และมีความสะดวกในจำนวนสาขาที่มากขึ้น ระบบการชำระเงินที่หลากหลาย
ส่วนอันดับ 2 ธุรกิจแพลตฟอร์ม (ธุรกิจตัวกลาง หรือ ตลาดกลางทางด้านอิเล็กทรอนิกส์) จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มีการพัฒนาแพลตฟอร์มที่รองรับการเปลี่ยนแปลงและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในการใช้เทคโนโลยี กระแสการพัฒนาแพลตฟอร์มทั่วโลก ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด และธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
อันดับ 3 ธุรกิจโลจิสติกส์ delivery และคลังสินค้า, ธุรกิจด้าน Fintech และการชำระเงินฝากระบบเทคโนโลยี และธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต โดยธุรกิจโลจิสติกส์ delivery และคลังสินค้า ได้รับปัจจัยสนับสนุนบริการส่งสินค้าจากการซื้อผ่านออนไลน์
ทำให้ความต้องการใช้บริการขนส่งสินค้าเพิ่มสูงขึ้น การเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างเศรษฐกิจในภูมิภาค ทำให้มีการขนส่งที่กระจายพื้นที่มากขึ้น ส่วนธุรกิจด้าน Fintech และการชำระเงินฝากระบบเทคโนโลยี ได้รับปัจจัยสนับสนุนอย่างพฤติกรรมการชำระเงิน
ด้วยอิเล็กทรอนิกส์มีเพิ่มขึ้น และนโยบายการละเว้นค่าธรรมเนียมทางการเงิน ในการโอน การชำระเงิน และอื่นๆ การพัฒนาแหล่งการชำระเงินตามร้านค้า ผู้ประกอบการที่มีการชำระผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต มีการซื้อประกันเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและคนในครอบครัวมากขึ้น รวมทั้งมีความรู้และความเข้าใจมีมากขึ้น และลดภาระค่าใช้จ่ายหากมีภัยเกิดขึ้น มาตรการลดหย่อนภาษี และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
อันดับ 4 ได้แก่ ธุรกิจเวชภัณฑ์ยา, ธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์ และทางการแพทย์, ธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ประชาชนมีพฤติกรรมการเรียนรู้และการศึกษาเกี่ยวกับการรักษา โดยการซื้อยา และการซื้อยาผ่านทางออนไลน์ทำได้ง่ายขึ้น
อันดับ 5 ธุรกิจอาหารเสริมและสุขภาพ, ธุรกิจขายตรง สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ประชาชนวิตกเรื่องสุขภาพ หลายคนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น รวมถึงการป้องกันตัวเองจากโรค ส่งผลให้สินค้ากลุ่มที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเป็นที่ต้องการมากขึ้น
เช่น วิตามิน เครื่องดื่มผสมวิตามิน อาหารเสริมต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นฟูบำรุงร่างกาย มีนวัตกรรมใหม่ๆ ในการสร้างผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น เทรนด์สุขภาพขยายตัวได้ดี ระดับราคาอาหารเสริมและสุขภาพมีราคาไม่สูง
อันดับ 6 ธุรกิจแปรรูปยาง เช่น ถุงมือยาง ถุงยาง เป็นต้น, ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป ได้รับปัจจัยสนับสนุนโควิด-19 ที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ที่ยังต้องมีการใช้ถุงมือยางในการป้องกันการสัมผัสการติดเชื้อ
ส่วนอาหารสำเร็จรูป ประชาชนมีการกักตุนสินค้าที่สามารถประกอบอาหารได้ง่ายขึ้น หลีกเลี่ยงการเข้าไปในชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ โดยเฉพาะสถานที่ปิดไม่มีอากาศถ่ายเท และตลาดสดต่างๆ
อันดับ 7 ได้แก่ ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจ youtuber และการรีวิวสินค้า, ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์ เช่น อาหารสัตว์สำเร็จรูป การดูแลสุขภาพสัตว์ โดยธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ได้รับปัจจับสนับสนุนจากพฤติกรรมการติดตามสื่อของคนในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป
สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้สะดวก รวดเร็วและง่ายมากขึ้น ต้นทุนประกอบธุรกิจต่ำ ส่วนธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์ มาจากประชาชนที่อยู่เป็นโสดหันไปเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน เพื่อคลายความเหงา ขณะที่คนมีคู่ หลายคนไม่อยากมีลูก จึงหันไปเลี้ยงสัตว์แทน
ส่วนอันดับ 8 ได้แก่ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์, ธุรกิจ Modern Trade ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ อันดับ 9 ได้แก่ ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน และอันดับ 10 ได้แก่ ธุรกิจยานยนต์, ธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์แนวราบ, ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการต่อเนื่อง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
"พิมรี่พาย" ชี้แจงแก้ปัญหาคลินิก-กล่องสุ่ม โอนเงินคืนแล้ว ขอโอกาสไปต่อ
ไฟไหม้โรงงานผลิตยางในนิคมฯ ลาดกระบัง คุมเพลิงได้แล้ว
ประชาชนทยอยกลับภาคอีสานก่อนหยุดปีใหม่