วันนี้ (20 ธ.ค.2564) พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์ COVID-19 ในไทยว่า ขาวดีวันนี้ไทยมีการฉีดวัคซีน COVID-19 ครบ 100 ล้านโดสแล้ว โดยเข็มแรกครอบคลุมร้อยละ 70.2% และเข็ม 2 ร้อยละ 61.63 และเข็ม 3 ร้อยละ 7% ซึ่งหลายประเทศของโลก มีแนวโน้มการติดเชื้อเติมขึ้น แต่แต่อัตราการเสียชีวิตลดลงเหลือร้อยละ 9 โดยเฉพาะการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน
ขณะที่องค์การอนามัยโลกรายงานว่า ตอนนี้มี 89 ประเทศทั่วโลกตรวจพบเชื้อโอมิครอน และผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในทุก 1 วันครึ่ง หากมีการแพร่ระบาดในชุมชน อัตราการแพร่เชื้อเร็วกว่าสายพันธุ์เดลต้า ทั้งนี้หลายประเทศเริ่มยกระดับคุมโอมิครอนแล้ว เช่น เนเธอร์แลนด์ สั่งล็อกดาวน์ช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ ส่วนฝรั่งเศส งดรับนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรไม่ให้เดินทางเข้าประเทศ
อ่านข่าวเพิ่ม สธ.พบหญิงไทยติดโควิด "โอมิครอน" ในประเทศคนแรกจากสามีนักบิน
18 ธ.ค.วันเดียวนทท.Test&Go ติดโอมิครอน 37 คน
พญ.สุมนี กล่าวอีกว่า สำหรับนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยเฉพาะ 2 สัปดาห์ของเดือนธ.ค.นี้จำนวน 160,455 คน มากกว่าช่วงเดือนพ.ย.ทั้งเดือนจำนวน 133,061 คน
พบนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยมีแนวโน้มติดเชื้อมากขึ้นชัดเจน จากเดือนพ.ย.อัตราเฉลี่ย 0.13% เพิ่มเป็น 0.22% โดย Test&Go จาก 0.08% เป็น 0.15% และแซนด์บ็อกซ์จาก 0.21% เป็น 0.27% เส้นกราฟบ่งชี้ว่าแบบ Test&Go มากขึ้น และติดเชื้อสูงสุดวันที่ 18 ธ.ค.จำนวน 37 คน
พญ.สุมนี กล่าวอีกว่า ส่วนระบบการกักตัวรองลงมาสูงสุด 11 คนในวันที่ 11 ธ.ค.และ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนแซนด์บ็อกซ์ 7 คนวันที่ 18 ธ.ค. ส่วนวันนี้ มีนักท่องเที่ยว 13664 คน มีการติดเชื้อ 42 คน ซึ่งเริ่มสูงขึ้นจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทางอากาศ และเป็น 24 ติดเป็น 1.5 รองลงมาแบบกักตัว 11 คนคิดเป็น 2.49% แซนด์บ็อก 7 คนจากการคัดกรองนักท่องเที่ยวไม่แสดงอาการ และยังจำเป็นต้องใช้ระบบการตรวจแบบ RT-PCR
ประเทศต้นทางที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยแล้วติด COVID-19 มากสุด 3 อันดับคือ สหราชอาณาจักร พบการติดเชื้อมากสุด 11,110 คนติดเชื้อ 60 คนคิดเป็น 0.54% รองลงมาสหรัฐอเมริกา 6,809 คน ติดเชื้อ 35 คน คิดเป็น 0.51 % ส่วน รัสเซีย 0.14%
คลัสเตอร์ "โอมิครอน" นนทบุรี โยง 4 จว.
พญ.สุมนี กล่าวอีกว่า สำหรับคลัสเตอร์ที่ สสจ.นนทบุรีรายงานคลัสเตอร์ติดเชื้อโอมิครอนใน จ.นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา และ กทม. เป็นกลุ่มที่ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตะวันออกกลางจำนวน 31 คน โดยกลับมาไทย 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา เข้าพักที่โรงแรมและตรวจหาเชื้อ RT-PCRพบเชื้อทีแรก 14 คน
จำนวน 14 คนแรกเมื่อถอดรหัสพบโอมิครอน 6 คนเดลตา 8 จากนั้นได้มีการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงและตรวจพบเชื้อโอมิครอนอีก 2 คน เมื่อ 19 ธ.ค.และ 20 ธ.ค.นี้ เจออีก 2 คน และในกลุ่มนี้มี 18 คนที่ติดโอมิครอน และรอยืนยันสายพันธุ์อีก 4 คน
ส่วนอีกเคส 2 สามีภรรยาที่เดินทางมาจากไนจีเรีย เข้าระบบแซนด์บ็อกซ์ และวันที่ 4-7 ธ.ค.สามีชาวต่างชาติมีโรคประจำตัวโรคเบาหวานเริ่มมีอาการไข้เจบคอ เดิมตรวจ ATK เป็นลบ แต่วันที่ 9 ธ.ค.อาการยังไม่ดีจึงตรวจ PCR พบผลบวก ส่วนวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา ภรรยาไปตรวจ จึงพบว่าเป็นผลบวก ผลตรวจสามี พบเป็นโอมิครอน เข้ารับการรักษาแล้ว และสอบสวนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1 คน ผลเป็นลบ แต่ยังสังเกตอการกลุ่มเสี่ยงต่ำอีก 83 คน
หญิงไทยคนแรกที่ติดเชื้อโอมิครอนในไทย ส่วนที่จ.นราธิวาส ผลตรวจ PCR เป็นบวกหลังจากเดินทางไปประกอบกิจกรรมทางศาสนาในทวีปตะวันออกกลาง เข้ามาทางสนามบินภูเก็ตแบบแซนด์บ็อกซ์ โดย 3 คนเป็นโอมิครอน 1 เดลตา 2 และกลุ่มเสี่ยงต่ำ 126 คนทั้งหมดอยู่ระหว่างกักตัวติดตามอาการถึง 27 ธ.ค.นี้
จ่อยกระดับคุมรับนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ยังพบผู้ติดเชื้อที่เดินทางผ่านสนามบินภูเก็ตและสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและไทย รวม 7 คนพบเป็นโอมิครอนทั้งหมด และอยู่ระหว่างการติดตามหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ
สำหรับโอมิครอนในไทยคล้ายประเทศทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทุกคนที่ติดเชื่อมโยงกับการเดินทางมาจากต่างประเทศ 1 ใน 4 ที่มาจากประเทศที่พบโอมิครอนไม่ใช่แค่ในทวีปแอฟริกา แต่มาจากหลายประเทศ จึงเตรียมเสนอให้ปรับมาตรการ เพื่อให้ศบค.ชุดใหญ่ ยกระดับมาตรการ ทั้งด้านสาธารณสุขและการท่องเที่ยว
จะต้องมีการพิจารณาจาก ศบค.ชุดเล็ก และนำเสนอให้ ผอ.ศบค.เพื่อพิจารณา ด้วยการปรับระบบของการเข้าประเทศแบบ Test&Go ไปเป็นระบบที่มีการตรวจ RT-PCR หรือมีการกักตัวในระยะเวลาที่มาถึงเมืองไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นกี่วันนั้นจะต้องรอติดตามต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง