วันนี้ (8 ธ.ค.2564) ศูนย์ข้อมูล COVID19 รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 3,618 คน รวมผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64 จำนวน 2,123,521 คน ผู้ป่วยกำลังรักษา 64,200 คน และหายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 5,775 คน เสียชีวิต 38 คน
ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีการรายงานข่าวในสื่อโซเชียล อ้างว่าอาจมีผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 2-3 คน โดยขณะนี้กำลังรอผลยืนยันอีกครั้ง
หลังจากก่อนก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่าได้รับข้อมูลเบื้องต้นว่าประเทศไทยพบผู้เข้าข่ายติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มเติมอีก 2-3 คน ทั้งหมดเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่จากการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศผ่านระบบไม่กักตัว (Test and go)
ไทยพีบีเอสออนไลน์ สอบถามไปยังแหล่งข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงสาธารณสุข จะมีการแถลงข่าวเรื่องนี้อีกครั้ง
"โอมิครอน" แพร่เชื้อเร็วกว่าสายพันธุ์เดิม 2-5 เท่า
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวถึงการเฝ้าระวังโดยสุ่มตรวจหาสายพันธุ์โอมิครอนในกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศที่มีผล RT-PCR เป็นบวก คือชายชาวอเมริกันอายุ 35 ปี เดินทางมาจากสเปน อยู่ระหว่างการดูแลในสถานพยาบาล แต่ไม่มีอาการ โดยจะติดตามอาการทุกวันจนครบการกักตัว 14 วัน นับตั้งแต่วันที่เดินทางมาถึงประเทศไทยคือวันที่ 30 พ.ย.
ผู้สัมผัสชายอเมริกันรายนี้ บนเครื่องบินไม่พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เนื่องจากไม่มีผู้โดยสารรายอื่นนั่งติดกับผู้ติดเชื้อ ส่วนพนักงานสนามบินมีประวัติสัมผัสใกล้ชิด 2 คน และผลตรวจเป็นลบ
นพ.จักรรัฐกล่าวว่า สายพันธุ์โอมิครอน ถือว่าแพร่เชื้อเร็วกว่าสายพันธุ์ที่ผ่านมา 2-5 เท่า ส่วนใหญ่อาการเล็กน้อย อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เป็นสัญญาณที่ดีว่าจะเข้าสู่โรคประจำถิ่นได้เร็วขึ้น อาจเป็นตัวช่วยให้การเปิดประเทศประสบความสำเร็จมากขึ้น แต่ยังต้องดำเนินมาตรการ VUCA ควบคู่ด้วย คือ การฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม วัคซีนทุกวันนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ป้องกันอาการป่วยหนักและเสียชีวิต
คนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ ต้องเข้มมาตรการต่างๆ ป้องกันการนำเชื้อกลับเข้าประเทศ กิจการใช้มาตรการ COVID Free Setting การตรวจ ATK เมื่อมีความเสี่ยง ซึ่งต้องปฏิบัติจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ระยะโรคประจำถิ่น ถ้าไม่เข้มงวด โอกาสการแพร่เชื้อจะเร็วขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สธ.ระบุ พนง.เสิร์ฟอาหาร สัมผัสใกล้ชิดชายอเมริกันยัง "ไม่พบเชื้อโอมิครอน"