วันนี้ (7 ธ.ค.2564) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (ศบค.) เปิดเผยข้อมูลพบการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” ทั่วโลกแล้ว 54 ประเทศ/พื้นที่ ได้แก่ ในทวีปแอฟริกา 4 ประเทศ ได้แก่ แอฟริกาใต้, บอตสวานา, แซมเบีย และซิมบับเว
ติดเชื้อในประเทศ มี 15 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย เบลเยียม บริเตน แคนาดา โครเอเชีย เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมัน ไอซ์แลนด์ อินเดีย อิสราเอล นามิเบีย นอร์เวย์ โปรตุเกส สเปน ส่วนไทยจัดอยู่ในกลุ่ม 35 ประเทศ ที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน จากการเดินทางเข้าประเทศ
ขณะที่ ผลการดำเนินงานการรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยาน ตั้งแต่ 1-6 ธ.ค.2564 สะสม 40,474 คน ติดเชื้อ 47 คน ได้แก่ ระบบ Test&Go 34,999 คน ติดเชื้อ 23 คน แซนด์บ็อกซ์ 4,323 คน ติดเชื้อ 9 คน และกักตัว 1,152 คน ติดเชื้อ 15 คน (กักตัว 7 วัน 240 คน กักตัว 10 วัน 854 คน และกักตัว 14 วัน 58 คน) โดยเข้ามาผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 28,840 คน ท่าอากาศยานดอนเมือง 359 คน ท่าอากาศยานภูเก็ต 10,587 คน ท่าอากาศยานสมุย 575 คน และท่าอากาศยานอื่นๆ 113 คน
ส่วนกรณีพบผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 คน ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ยังไม่ยืนยันว่า เป็นการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการรอตรวจยืนยันจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์อีกครั้ง โดยจากการแถลงของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พบว่า ผลการตรวจเชื้อซ้ำในวันนี้ เป็น Not Detected หรือไม่พบเชื้อ แต่ยังต้องกักตัวเพื่อรอตรวจซ้ำ
ด้ามกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์โอมิครอน โดยมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นในกลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กอายุน้อย ซึ่งเกรงว่า หากมีการระบาดอาจได้รับผลกระทบ โดยมีการจัดการพื้นที่เครือข่ายไว้รองรับแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"อนุทิน" ยังไม่ยืนยันผู้สัมผัสชาวอเมริกันติดเชื้อโอมิครอนหรือไม่