วันนี้ (28 ต.ค.2564) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า "เมอร์ค" ลงนามข้อตกลงด้านสิทธิบัตรยา กับองค์การจัดการสิทธิบัตรยาที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ การขยับตัวของเมอร์คครั้งนี้ น่าจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงยารักษาโควิด-19 ได้มากยิ่งขึ้น
ข้อตกลงนี้ครอบคลุมเฉพาะประเทศรายได้ปานกลางและรายได้ต่ำ 105 ประเทศในแอฟริกาและเอเชีย ซึ่งประเทศในอาเซียนในรายชื่อ ประกอบด้วย เมียนมา กัมพูชา ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
องค์การจัดการสิทธิบัตรยาจะให้สูตรการผลิต "ยาโมลนูพิราเวียร์" แก่บริษัทผู้ผลิตที่มีคุณสมบัติเหมาะสม โดยเมอร์คจะไม่เก็บค่าตอบแทนตราบเท่าที่โควิด-19 ยังเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ
ด้านองค์กรแพทย์ไร้พรมแดน แสดงความผิดหวังต่อข้อจำกัดของการบรรลุข้อตกลงสิทธิบัตรยา เนื่องจากข้อตกลงไม่ได้ครอบคลุมประเทศรายได้ปานกลางค่อนข้างสูงที่มีกำลังการผลิตยาตัวนี้ ขณะที่องค์การอนามัยโลกสนับสนุนให้เมอร์คเพิ่มรายชื่อประเทศสำคัญอื่นๆ เข้ามาในข้อตกลงฉบับนี้
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบายแนวทางในการจัดหายาโมลนูพิราเวียร์ ว่า ไทยต้องซื้อยาจากบริษัทเมอร์คโดยตรง แต่ในหลักการอาจเจรจาขอให้บริษัทยาในไทยผลิตได้ แต่ก็ต้องขายให้ประเทศยากจน105 ประเทศนั้น
สำหรับราคายาที่สหรัฐฯ จัดซื้อ ตกคอร์สละ 700 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 24,000 บาท ส่งผลให้ต้องจ่ายเงินสูงถึง 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 36,000 ล้านบาท ในการซื้อยาโมนูลพิราเวียร์ 1.7 ล้านคอร์ส
ขณะที่ Harvard School of Public Health ประเมินแล้วพบว่า ราคาขายสูงเกินจริงมากถึง 40 เท่า เนื่องจากต้นทุนการผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ตกคอร์สละ 17 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 600 บาท หากอยู่ภายใต้การผลิตที่เหมาะสม ราคาอาจลดลงถึง 7.7 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 260 บาท
สมาชิกอาเซียนอย่างน้อย 3 ประเทศ บรรลุข้อตกลงกับเมอร์คในการจัดซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งฟิลิปปินส์เตรียมนำเข้ายา 300,000 คอร์ส สำหรับรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาล 4 แห่งในเดือน พ.ย.นี้ โดยยาโมลนูพิราเวียร์จะตกเม็ดละประมาณ 66-100 บาท หรือตกคอร์สละไม่เกิน 4,000 บาท
ผลการทดสอบทางคลินิกระยะที่ 3 บ่งชี้ว่า ยาตัวนี้ช่วยลดโอกาสเข้าโรงพยาบาลได้ร้อยละ 50 ยาจะออกฤทธิ์เข้าไปทำให้รหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสผิดปกติ จนไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้
ผู้ป่วยระยะเริ่มต้นถึงปานกลางสามารถรับประทานยานี้ได้ทันที เพื่อลดโอกาสเข้าโรงพยาบาล โดยใน 1 คอร์สจะมียาโมลนูพิราเวียร์ ขนาด 200 มิลลิกรัม จำนวน 40 เม็ด สำหรับผู้ป่วย 1 คน ผู้ป่วยแต่ละคนจะรับประทานยาตัวนี้เป็นเวลา 5 วัน วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ตกครั้งละ 4 เม็ด
ที่มา : Reuters, Harvard
อ่านข่าวอื่นๆ
"เมอร์ค" ยื่นขออนุมัติใช้ฉุกเฉิน "ยาโมลนูพิราเวียร์" ในสหรัฐฯ
แอมเนสตี้เรียกร้องผู้นำกลุ่ม G20 จัดสรรวัคซีนโควิด-19 อย่างเป็นธรรมทั่วโลก