วันนี้ (23 ต.ค.2564) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และ นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมประชุมรับฟังปัญหาและข้อกังวลจากตัวแทนภาคธุรกิจการท่องเที่ยว เกษตรกร และประชาชนทั่วไป ถึงความกังวลเกี่ยวกับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ที่ จ.กระบี่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมประชาชนหลายคนแสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาจำนวนผู้ได้รับวัคซีนของ จ.กระบี่ ถือว่าต่ำมาก เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ
นายพิธากล่าวว่า รัฐบาลที่มีหน้าที่บริหารประเทศ จึงควรเป็นผู้ที่มีความคิด มีวิสัยทัศน์ เข้าใจถึงความเดือดเนื้อร้อนใจของประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ
วิกฤตโควิด ทำให้เราเห็นได้ชัดระหว่าง รัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์และรัฐบาลที่ไม่มีวิสัยทัศน์ รัฐบาลที่ถือประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และรัฐบาลที่ถือประโยชน์ของนายทุน ขุนศึก ศักดินาเป็นที่ตั้ง
หากเรามีรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์ ตอนเราเปิดแซนบอกซ์ เราจะได้ทดลองรูปแบบวิธีการป้องกันและอยู่ร่วมกับโควิดในรูปแบบต่างๆ เพราะตอนนี้วิธีการตรวจโควิด ไม่ได้มีแค่การตรวจแบบ PCR หรือ ATK เพียงอย่างเดียวอีกแล้ว
ยังมีวิธีการตรวจด้วยลมหายใจอย่างที่รัฐบาลสิงคโปร์ใช้อยู่ตอนนี้ หรือการตรวจด้วยน้ำลาย อย่างเช่นตอนที่รัฐบาลญี่ปุ่นจัด Tokyo Olympics
หากเราใช้วิธีการตรวจด้วยน้ำลาย โรงแรมที่มี 5 ชั้น มีคนพักอยู่ 100 คน อาจจะใช้วิธีการตรวจด้วยน้ำลายแบบกลุ่ม (Pool Saliva Covid Test) คือนำน้ำลายของคนทั้งชั้นมารวมกันเพื่อตรวจเพียงครั้งเดียว แล้วชั้นไหนที่พบว่ามีคนติดโควิด เราก็ทำการตรวจด้วย ATK หรือ PCR แยกเฉพาะชั้นนั้นๆ อย่างละเอียดอีกที ถ้าทำได้อย่างนี้เราก็ไม่ต้องตรวจ 100 ครั้ง แต่ตรวจเบื้องต้นเพียงแค่ 5 ครั้งเท่านั้น ประหยัดทั้งเวลาและงบประมาณไปได้อีกมาก
การเปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ที่ผ่านมาจึงเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากๆ เราไม่ได้ทดลองอะไรเลย เป็นการเปิดแซนด์บอกซ์ ที่ไร้วิสัยทัศน์ เป็นการเปิดแซนด์บอกซ์ แบบตามยถากรรม
พรรคก้าวไกลยืนยันว่า เราต้องเปิดประเทศ แต่คำถามคือเราพร้อมแล้วหรือยัง การที่คุณประยุทธ์กำลังมัดมือชกคนทั้งประเทศ เพียงเพราะตนเองไม่อยากผิดคำพูด
นายพิธากล่าวต่อว่า ตอนแรกพูดว่า จะฉีดให้ได้ 50 ล้านโดส ก่อนเปิดประเทศ แต่สุดท้ายก็ฉีดไม่ถึง อย่างที่ จ.กระบี่ มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกเพียง 60 % และเข็มที่สองเพียง 30 % เช่นนี้ คือเราพร้อมแล้วจริงๆ ใช่หรือไม่
ที่น่าเป็นห่วงไปมากกว่านั้น คือในขณะที่คุณประยุทธ์กำลังสั่งเปิดประเทศ กระบี่เป็นจังหวัดท่องเที่ยว แต่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อยกระดับทางการแพทย์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโควิดเพียง 1.7 ล้านบาท
ผมไม่แน่ใจจริงๆ ว่ารัฐบาลเอางบไปไหน ไปอุ้มใคร แต่ที่เห็นได้ชัดๆ ตอนนี้คือไม่ใช่ประชาชนแน่ๆ