วันนี้ (14 ก.ย.2564) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า การตัดสินใจของรัฐบาลอังกฤษเป็นไปตามคำแนะนำของหัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์อังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์และไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเสนอให้มีการฉีดวัคซีน COVID-19 ให้กับเด็กอายุตั้งแต่ 12-15 ปี โดยใช้วัคซีนของไฟเซอร์
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะเริ่มฉีดให้กับเด็กที่โรงเรียนในสัปดาห์หน้า ตามความเห็นชอบของผู้ปกครอง และจะฉีดให้เพียงแค่ 1 โดสเท่านั้น ส่วนโดสที่ 2 ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะฉีดให้กับเด็กกลุ่มอายุดังกล่าวหรือไม่ เบื้องต้นคาดว่า จะมีเด็กที่เข้าเกณฑ์รับวัคซีนประมาณ 3 ล้านคน
ขณะที่บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมแถลงชี้แจงในประเด็นนี้ โดยคาดว่า รัฐบาลจะใช้โครงการฉีดวัคซีนในเด็กกับการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ผู้ใหญ่กลุ่มเสี่ยง เป็นเครื่องมือในการควบคุมการแพร่ระบาดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว หรือตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงต้นปีหน้า
ด้านหัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์อังกฤษ มองว่า การฉีดวัคซีนให้เด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป จะช่วยลดโอกาสในการแพร่ระบาดในโรงเรียนช่วงเปิดเทอม และช่วยป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพทางจิตในเด็ก จากการต้องหยุดเรียนเนื่องจากมาตรการคุมเข้ม COVID-19
การตัดสินใจของรัฐบาลในครั้งนี้สวนทางกับคำแนะนำของคณะกรรมการร่วมด้านการให้วัคซีนและการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งระบุเมื่อต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ยังไม่แนะนำให้มีการฉีดวัคซีนให้เด็กที่มีสุขภาพดีในกลุ่มอายุดังกล่าว เนื่องจากต้องการประเมินผลกระทบในระยะยาวจากอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งถือเป็นอาการข้างเคียงที่พบได้ยากจากการฉีดวัคซีน COVID-19
ที่มา : Reuters / AP / AFP / BBC