ทีมงาน The Exit ทดลองหานายหน้าผ่านทางสื่อออนไลน์ มีเป้าหมายว่า ต้องการไปหางานทำที่ประเทศกัมพูชา
โพสต์รับสมัครคนไทยไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา มักอยู่ในกลุ่มปิดของเฟซบุ๊ก เนื้อหาในโพสต์ส่วนใหญ่ พบว่า นายหน้ามักระบุเงื่อนไขจูงใจ เช่น งานสบาย รายได้ดี โอทีสูง
มีข้อมูลว่า คนไทยที่พูดภาษาจีนหรืออังกฤษได้ มักเป็นที่ต้องการในจังหวัดพระสีหนุ และกรุงพนมเปญ ส่วนที่เมืองปอยเปต ต้องการเพียงแค่พูดภาษาไทยก็ไปทำงานได้
สำหรับเงื่อนไขการเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาตินั้น จะเสียเงินค่าเดินทางหรือไม่ขึ้นอยู่กับนายหน้าฝั่งกัมพูชาเป็นผู้กำหนด
ทีมงาน The EXIT ได้พูดคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งทางออนไลน์ หลังจากค้นหาในกลุ่มปิดไม่นาน
เธออ้างตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของคาสิโนในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา เสนอค่าจ้างเดือนละกว่า 20,000 บาท
งานเป็นเว็บไซต์หุ้น เป็นเว็บไซต์เงินกู้ เว็บไซต์ออนไลน์ ลูกค้าก็เป็นคนไทย เราจะโกหกอย่างไรก็ได้ ให้ลูกค้าเติมเงินมาให้เราแค่นั้นจบ มีเปอร์เซนต์ให้เราด้วยนะ 5 เปอร์เซนต์
ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องกลัว ไม่ถูกจับแน่นอน เป็นสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ยืนยันกับทีมงาน The EXIT ทุกครั้งที่พูดคุยถึงการลักลอบข้ามแดน
ตำรวจเป็นคนพาข้ามไม่ต้องกลัว ตำรวจเป็นน้าเขยของพี่เอง เราทำงานกันเป็นทีมน้องไม่ต้องกลัว เขามาทุกวันๆ ละเป็น 10 เป็น 100 คนก็มี ฝ่ายบุคคลเขาเดินสายเขาทำงานกันเป็นทีม ถ้าโดนจับแล้วพี่จะอามาเป็นพันๆ คนได้อย่างไร จะหมดอรัญฯ อยู่แล้ว
นายหน้านัดทีมงาน The EXIT ที่ลานจอดรถ หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ใน อ.อรัญประเทศ จ. สระแก้ว เพื่อรอรถมารับไปยังจุดพักคอย ก่อนเดินข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติไปกัมพูชา
ทีมงานติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ผ่านไลน์กลุ่มเดินทางเชียงราย
เวลา 19.19 น. รถตู้ทะเบียน จ.เชียงรายมาถึงพร้อมผู้โดยสาร 4 คนที่จะข้ามแดนไปกัมพูชาในค่ำคืนนี้
1 ชั่วโมงต่อมา รถกระบะทะเบียน จ.สระแก้ว เข้ามาสมทบที่จุดนัดหมาย ประมาณ 21.00 น. รถกระบะทะเบียน จ.สระแก้ว ออกเดินทางมุ่งหน้าด้วยความเร็วสูงไปที่ อ.โคกสูง
ความมืดและความชำนาญในพื้นที่ ทำให้ทีมงาน The EXIT คลาดกับรถกระบะ
บริเวณนี้ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 2-3 กิโลเมตร ใกล้กับ บ้านหนองหญ้าแก้ว และ บ้านหนองเสม็ด ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
เมื่อนายหน้าพบว่า ทีมงาน The EXIT ไม่ได้เดินทางข้ามแดนไปพร้อมกับกลุ่มคนไทย 4 คนจาก จ.เชียงราย จึงถูกลบออกจากการเป็นสมาชิกในไลน์กลุ่มเดินทางเชียงรายในวันต่อมา
นี่ไม่ใช่คนไทยกลุ่มเดียวที่ใช้เส้นทางนี้ลักลอบข้ามแดน แม้นายหน้าอาจไม่ใช่คนเดียวกัน
เส้นทางในความทรงจำของ 1 ในคนไทย 15 คน ที่ได้รับความช่วยเหลือกลับจากประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2564 ที่ผ่านมา ดูไม่ค่อยแตกต่าง โดยเฉพาะจุดนัดหมายที่ห้างสรรพสินค้า ใน อ.อรัญประเทศ ที่นายหน้าใช้เป็นจุดนัดพบเเรก ก่อนเดินทางไปที่ชายแดน
ไปส่งที่ห้าง อ.อรัญฯ สักพักก็มีวัยรุ่น ขับรถกระบะมารับไปที่ชายแดนที่มันมืดๆ ไม่เห็นอะไรเลย แล้วมีรถกระบะหลายคันจอดอยู่ แล้วก็มีคน 30 กว่าคน รวมกันอยู่ตรงกัน ต่างคนต่างไม่เห็นหน้าเพราะว่ามืดมาก
อ.โคกสูง มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศกัมพูชา ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ที่นี่ไม่มีคลองคูเล็กๆ เป็นแนวแบ่งเขต การลักลอบข้ามพรมแดนจึงทำได้ไม่ยาก
ตลอดเส้นทางมีทั้งด่านความมั่นคง และด่านของฝ่ายปกครอง แต่รถที่ขนคนไทยเตรียมข้ามไปกัมพูชากลับผ่านด่านเหล่านี้ไปได้ ทั้ง ๆ ที่ผู้โดยสาร ทั้งหมดเป็นคนต่างถิ่น
ตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงวันนี้ จ.สระแก้ว จับคนไทยพยายามลักลอบข้ามแดนไปกัมพูชาได้เกือบ 160 คน ส่วนใหญ่ ถูกจับใน อ.โคกสูง ในจำนวนนี้ไม่มีคนไทย 4 คนจาก จ.เชียงราย ที่เตรียมลักลอบข้ามแดนคืนวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดพบว่า ทั้ง 4 คน เดินทางถึงปอยเปตของกัมพูชาแล้ว