วันนี้ (9 เม.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญาอ่านคำสั่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราว คดีหมายเลขดำ อ.287/2564 ที่นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ จำเลยที่ 3 นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยที่ 4 และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน จำเลยที่ 7 จำเลยคดีร่วมกันชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร กรณีชุมนุมเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.2563 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และสนามหลวง เกี่ยวกับความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตาม ป.อาญา ม.112, ยุยงปลุกปั่นฯ ม.116 และอื่นๆ ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยเสนอเงื่อนไขหากได้รับการประกันตัว จะไม่ปราศรัยพูดจาพาดพิงสถาบันฯ อีก
ศาลอาญาได้ไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแล้ว มีคำสั่งว่า พิเคราะห์จากคำแถลงและการไต่สวนตามคำร้องของนายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม จำเลยที่ 3 ประกอบกับคำรับรองของผู้ที่เกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 3 แล้ว น่าเชื่อว่าจำเลยที่ 3 จะไม่ไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นได้อีก จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 200,000 บาท โดยศาลมีเงื่อนไขห้ามมิให้จำเลยที่ 3 กระทำการในลักษณะเช่นเดียวกับที่จำเลยที่ 3 ถูกกล่าวหาตามฟ้องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ซ้ำอีก หรือไปร่วมกิจกรรมที่อาจทำให้เสื่อมเสียแก่สถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามจำเลยที่ 3 เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากศาล และให้จำเลยที่ 3 มาศาลตามกำหนดนัดโดยเคร่งครัด ก่อนปล่อยตัวจำเลยที่ 3 แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ
ส่วนนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยที่ 4 และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา จำเลยที่ 7 แม้จะให้ถ้อยคำในชั้นไต่สวนขอปล่อยชั่วคราวเช่นเดียวกับจำเลยที่ 3 แต่กลับปรากฏข้อเท็จจริงในภายหลัง ว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย.2564 ศาลนัดสอบคำให้การตรวจพยานหลักฐาน และกำหนดวันนัดสืบพยานคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 287/2564 จำเลยที่ 4 และที่ 7 และทนายจำเลยที่ 4 และที่ 7 ไม่ยอมลงลายมือชื่อในรายงานกระบวนพิจารณาโดยไม่มีเหตุอันสมควร มีเพียงจำเลยที่ 3 และทนายความจำเลยที่ 3 เท่านั้นที่ลงลายมือชื่อในรายงานกระบวนพิจารณา ปรากฏตามรายงานเจ้าหน้าที่ และรายงานกระบวนพิจารณา ลงวันที่ 8 เม.ย.2564
ทั้งทนายจำเลยที่ 4 และที่ 7 นำรายงานกระบวนพิจารณาไปเขียนข้อความเพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล ระบุว่า "ทนายความจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ถึงที่ 22 ไม่ขอลงชื่อในรายงานกระบวนพิจารณา เนื่องจากไม่ยอมรับกระบวนพิจารณา" กับมีพฤติการณ์จะไม่ยอมไปกำหนดวันนัดสืบพยานที่ศูนย์นัดความ และยื่นคำร้องขอถอนทนายความ ทำให้การกำหนดวันนัดสืบพยานเป็นด้วยความยากลำบาก ซึ่งเป็นอุปสรรคและก่อให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินคดีในศาล
ข้อความและคำแถลงของจำเลยที่ 4 และที่ 7 ว่าจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่แถลงไว้ต่อศาล จึงไม่น่าเชื่อถือว่าสามารถปฏิบัติตามที่แถลงไว้ต่อศาลได้ ในชั้นนี้ไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 4 และที่ 7 ชั่วคราว ให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 4 และที่ 7