ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

The EXIT : เปิดขบวนการ 'ค้าประเวณี' ข้ามแดน

สังคม
2 มี.ค. 64
10:28
1,559
Logo Thai PBS
The EXIT : เปิดขบวนการ 'ค้าประเวณี' ข้ามแดน
The EXIT ได้รับเบาะแสว่า แม้ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีความเข้มงวดตรวจสอบการข้ามแดนไทย-มาเลเซีย ยังพบการลักลอบนำหญิงไทยเข้าไปขายบริการ เกิดการข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย และกักขังหน่วงเหนี่ยว
เขาเอาไฟจี้ที่แขน ถามว่าจะให้โทรศัพท์มือถือกับเขาไหม ตรงหน้าอกเขาก็เอาเข่ากระแทกจนมีรอยช้ำ

นี่คือคำบอกเล่าจากหญิงไทยคนนี้ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในโรงแรมแห่งหนึ่ง กลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย หลังเธอตัดสินใจ เดินทางไปลักลอบค้าประเวณี อ้างเหตุผล เพื่อหาเงินกลับมาใช้หนี้ 

 

ข้อมูลที่น่าสนใจ คือ การลักลอบเข้าไปทำงานผิดกฎหมาย เป็นช่วงเวลา ที่ด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย มีความเข้มงวด ควบคุมบุคคลเข้าออก จากสถานการณ์ระบาดโควิด-19

เธอเปิดเผยข้อมูลว่า หลังติดต่อผ่าน นายหน้าจัดหางาน หรือ ที่มักเรียกกันในกลุ่มว่า เอเจนซี่ จนเป็นที่พอใจทั้ง 2 ฝ่าย จึงจะนัดกำหนดวันเดินทาง พร้อมกับหญิงสาวรายอื่น กลุ่มละ 3-4 คน เพื่อไม่ให้ผิดสังเกต เป็นการเดินทางจากกรุงเทพ ไปยังจังหวัดนราธิวาส และลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ ในอำเภอสุไหงโกลก โดยมีบุคคลนำพา หรือ คนอุ้มออก คิดค่าจ้างคนละ 1,500 ริงกิต หรือ ราว 15,000 บาท

หลังจากนั้นจะมีรถยนต์ส่วนบุคคลฝั่งมาเลเซียมารอรับ และเปลี่ยนรถเป็นระยะ มุ่งหน้าไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่

 

 

ข้อความประกาศหาหญิงไทยไปทำงานของนายหน้า ทำให้หญิงคนนี้ ตัดสินใจเดินทางไปในช่วงเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ทั้งที่รู้ดีว่า “มาเลเซีย” อยู่ในสถานะประเทศ ที่พบการระบาดของโควิด-19 รุนแรงมากที่สุดประเทศหนึ่ง ในแถบเอเชีย แต่ด้วยนายหน้า โน้มน้าวการันตีสถานที่ทำงาน ไปจนถึงรายได้ ประกอบกับตัวเธอเองมีหนี้สิน จากการถูกหลอกให้ลงทุน จนกลายเป็นคดีความ ต้องเร่งหาเงินมาชดใช้ หลักแสนบาท ในระยะเวลาไม่กี่เดือน จึงตกลงรับงาน  

แต่เมื่อเดินทางไปถึง กลับพบว่า ไม่เป็นไปตามข้อตกล มีการกักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ และแจ้งความจับ เพื่อไม่จ่ายเงินค่างาน ตามที่ตกลง

The EXIT ติดต่อไปยังอาสาสมัครคนไทยในประเทศมาเลเซีย ที่ให้ความช่วยเหลือหญิงคนดังกล่าว ได้ข้อมูลว่า กรณีนี้ช่วยเหลือหญิงไทย ออกมาได้ทั้งหมด 3 คน และพบว่าเป็นกรณีปัญหา ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะตั้งแต่ปลายปี ที่พบหญิงไทย ลักลอบกลับเข้ามาทำงานผิดกฎหมายในมาเลเซีย

เธอระบุว่า นายหน้า หรือ เอเจนซี่ ส่วนใหญ่เป็นคนไทย ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในมาเลเซีย มีบอส เป็นคนจีน-มาเลเซีย คอยดำเนินการ อาศัยเช่าโรงแรม และเปิดขายงานผ่านระบบออนไลน์ มีรหัสการเข้าออกห้องพักให้กับผู้ใช้บริการ

 

 

ทีมข่าวค้นหาข้อมูล พบ การประกาศรับสมัครงานในลักษณะดังกล่าวอย่างโจ่งแจ้ง ทั้งในกลุ่มหางานต่างประเทศ แถบเอเชีย และเพจส่วนตัว ข้อความส่วนใหญ่ ระบุ เชิญชวนในลักษณะใกล้เคียงกัน คือ เป็นงานตรงโรงแรม มีค่าแทค หรือค่าดำเนินการอยู่ที่ 2,500 ริงกิต หรือ ราว 25,000 บาท และมักอ้างว่า ค่อยหักลบหลังจากทำงานแล้ว

บางรายระบุชัดเจน ว่าเป็นการอุ้มเข้า-อุ้มออกแบบผิดกฎหมาย ทีมข่าวได้ข้อมูลว่า การอุ้มออกกรณีเข้าไปทำงานค้าประเวณี จะตกอยู่ที่คนละ 4,000-4,500 ริงกิต หรือ 4 หมื่นถึง 4 หมื่น 5 พันบาท สูงกว่าการอุ้มเข้า มากถึง 4 เท่า

สอดคล้องกับข้อมูล ที่ได้รับจากผู้ร้องเรียน ว่าการกำหนดราคาอุ้มออกที่สูง เป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ทำให้ต้องทนทำงาน ทั้งที่ถูกข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย และไม่ได้รับค่างานตามที่ตกลง

วันหนึ่งต้องรับแขก 14 คนขึ้นไป ปฏิเสธไม่ได้ ถ้าใครปฏิเสธก็จะถูกขู่ว่าจะเอาตำรวจมาจับ หรือทำร้ายร่างกาย 

 

ก่อนหน้านี้ ปี 2561 ช่วงการเปลี่ยนรัฐบาลของมาเลเซีย The EXIT เคยนำเสนอข้อมูลมาตรการกวาดล้างแรงงานผิดกฎหมายในประเทศมาเลเซียที่มีความเข้มข้นมากขึ้น ช่วงเวลานั้น มีการจับกุมหญิงไทย ที่ลักลอบเข้าไปทำงานในภาคบริการได้มากกว่า 400 คน

และแม้โทษทางกฎหมาย กรณีถูกจับและดำเนินคดีข้อหารอรับแขก หรือ ค้าประเวณี บวกกับเข้าเมืองผิดกฎหมาย กรณีไม่มีหนังสือเดินทาง มีโทษสูงสุด จำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ จะเป็นโทษที่ค่อนข้างสูง แต่ในขณะที่ขบวนการนายหน้า ยังคงเปิดดำเนินการชักชวนหญิงไทยอย่างโจ่งแจ้ง ปัญหาลักษณะนี้ก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.

 

ชมย้อนหลัง : 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง